หัวจะปวด! ปม ‘เรือรบเมียนมา’ ชาวเน็ตรุมจวกยับ ตั้งคำถามคุณภาพชีวิต ลั่น ‘คนไทยไร้ค่า’ หลังเจอรัฐบาลโต้กลับ
จากกรณีศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง (ศรชล.ระนอง) ได้รับแจ้งเหตุการณ์กลุ่มเรือประมงอวนดำไทยกว่า 50 ลำ ถูกเรือรบเมียนมา 3 ลำ บุกยิงใส่ในน่านน้ำไทย ห่างจากเกาะพยามด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ขณะกำลังวางอวนล้อมจับปลา ส่งผลให้มีลูกเรือเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และสูญหาย 2 ราย เรือถูกยึด 1 ลำ ส่งผู้ช่วยทูตทหาร ขอรับตัว 31 ตัวประกันจากการโดนโจมจีดังกล่าว

ต่อมาทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ต้องรอทางกองทัพเรือรายงานรายละเอียดอีกครั้งว่า เรือประมงของไทยนั้นล้ำเส้นเขตแดนออกไปหรือไม่ พร้อมยอมรับว่าเรือรบเมียนมายิงเรือประมงของไทยจริง แต่เป็นการยิงสัญญาณเตือน ไม่ใช่การทำร้าย และมีบางส่วนกระเจิดกระเจิง และตกใจตกน้ำไป แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นเช่นไร
ทางด้าน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีการโพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัว Ing Shinawatra เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “ดิฉันมีความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกองทัพเรือและกระทรวงการต่างประเทศเร่งประสานกับฝ่ายเมียนมาเพื่อช่วยเหลือคนไทยโดยด่วน ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีการดำเนินการประสานกับฝ่ายเมียนมาแล้วผ่านช่องทางทหารและการทูต และดิฉันจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด”
- สวนแรง! นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ฟาดกลับชาวเน็ต หลังโดนดราม่า ‘น้ำท่วมภาคใต้’
- นายกฯ แจงดราม่า ‘ไม่สนใจน้ำท่วม’ ยัน ไม่ได้ละเลย เพราะสามีก็คนใต้!?
- ชาวบ้าน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส หว่านแหจับปลา หลัง ‘น้ำท่วมภาคใต้’!?
“นอกจากนั้นได้รับทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย มาพบในวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เพื่อรับทราบข้อกังวลอย่างเป็นทางการด้วยแล้ว”
ล่าสุด โฆษกกระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง เผยว่า ทางการไทยได้มีการส่งจดหมาย 2 ฉบับถึงประเทศเมียนมา ถึงการกระทำเกินกว่าเหตุพร้อมขอตัวลูกเรือไทยที่เหลืออีก 4 คนกลับประเทศโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวกลับในอีก 2 วัน
โดยก่อนหน้านี้ทางด้านได้มีการแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นดังกล่าว ประมาณว่า “วิญญาณบรรพบุรุษไทย ร้องไห้แล้วมั้ง อุตส่าห์ รบกับพม่าตั้งหลายรอบ ลูกหลานกลับมาหงอมัน ตอนมันล่วงล้ำน่านน้ำไทย”
