ชีวิตพลิกผัน! เด็ก 17 เลี้ยงดูพ่อที่ป่วยมะเร็ง สุดท้ายถูกรถชน นอนติดเตียง

อุบัติเหตุเปลี่ยนชีวิต! เด็กมอญวัย 17 ปี ถูกรถชนสาหัส ได้เงินประกันไม่ถึงครึ่ง สูญเสียทั้งสุขภาพ-พ่อป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย

จากกรณีเพจ Facebook อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพ หลังมีสมาชิกในกลุ่มแชร์เรื่องราวของเด็กวัย 17 ปี ที่โดยรถชนจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จนสุดท้ายต้องนอนเป็นผักเป็นปลาหมดหนทางหารายได้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายคือ เด็กชายวัย 17 ปี เป็นชาวมอญที่อาศัยอยู่กับพ่อผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เมื่อเขาถูกชนโดยรถยนต์ที่เสียหลักขณะขับรถจักรยานยนต์กลับจากการสอบ กศน. ที่อำเภอไทรโยค ส่งผลให้เขากระดูกแขน ขา และสะโพกหัก ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลากว่า 1 เดือน และต้องพักฟื้นนานถึง 2 ปีตามคำวินิจฉัยของแพทย์

นายจ้างของเขาเล่าว่า ทางประกันภัยของผู้ชน ซึ่งเป็นประกันชั้น 1 ได้เสนอค่าชดเชยเพียง 150,000 บาท ทั้งที่เรียกไป 800,000 บาท เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาและโอกาสในการสูญเสียรายได้ระหว่างที่เด็กชายไม่สามารถทำงานได้ โดยปัจจุบันเขาทำงานหารายได้ทั้งเช้าและเย็น ได้ค่าแรงรวมประมาณ 600 บาทต่อวัน แต่หลังจากอุบัติเหตุ เด็กชายต้องนอนเป็นผัก ไม่สามารถนั่งหรือเคลื่อนไหวได้

นอกจากนี้ เด็กชายยังต้องสูญเสียคุณพ่อซึ่งเลือกปฏิเสธการรักษาตัวเองเพื่อดูแลลูกที่เจ็บหนัก จนเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เขาไร้คนดูแลในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต

ทางด้านนายจ้างได้พยายามช่วยเหลือเด็กชายอย่างเต็มที่ รวมถึงวิ่งเอกสารและพาเขาไปเจรจากับประกันหลายครั้ง แต่การตอบสนองจากบริษัทประกันยังไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงได้ตัดสินใจโพสต์เรื่องราวนี้ลงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหาความช่วยเหลือและคำแนะนำจากประชาชนทั่วไป หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ ชุมชนออนไลน์ให้การสนับสนุนและแนะนำให้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และปรึกษาทนายความเพื่อเดินหน้าต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมต่อไป

นายจ้างยังยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้งเด็กชายคนนี้และพร้อมสนับสนุนให้เขาได้กลับมาทำงานเมื่อสุขภาพดีขึ้น โดยปัจจุบัน ครู กศน. ได้ช่วยหางานเสริมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การทำดอกไม้ประดิษฐ์เพื่อช่วยสร้างรายได้ระหว่างที่เขายังไม่สามารถทำงานหนักได้ ทางนายจ้างวางแผนจะยื่นเรื่องต่อ คปภ. พร้อมจัดเตรียมเอกสารเพิ่มเติมตามที่ชุมชนแนะนำ เพื่อต่อสู้เพื่อสิทธิของเด็กชายที่สมควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้