รวบแล้ว! หัวหน้าเชฟหื่น ใช้กำลังขืนใจเด็กพาทไทม์วัย 16 คาอพาร์ทเม้น

ปิดคดีเชฟหื่น เปลี่ยนห้องครัวเป็นห้องขัง หลังล่อลวงเด็กพาทไทม์อายุ 16 อ้างให้นำงานไปส่ง ก่อนใช้กำลังบังคับขืนใจ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดสืบนครบาลได้เข้าจับกุมตัว นายวทันยู วงศ์ชารี อายุ 25 ปี ที่อยู่ 394 ม.9 ต.โคกก่อง อ.เมือง จ.บึงกาฬผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.716/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารฯ, พรากผู้เยาว์ อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยฯ และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ”

โดยเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ที่หน้าตลาด ซ.5 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พฤติกาณ์แห่งคดีเมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2566 ผู้ปกครองของผู้เสียหายวัย 16 ปี ได้สังเกตว่าลูกสาวตนมีอาการผิดปกติ จึงได้พูดคุยสอบถามจนกระทั่งทราบว่า ลูกสาวซึ่งทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารญี่ปุ่น ในห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้าได้รู้จักกับผู้นายบอม หรือ นายวทันยูฯ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหัวหน้าเชฟในร้านดังกล่าว

จากการสอบถาม ณ วันเกิดเหตุ หลังเลิกงานที่ร้าน นายบอมฯ ได้อาศัยความเป็นหัวหน้าบอกให้ผู้เสียหายไปทำงาน และส่งงานที่อพาร์ทเม้นและได้ใช้กำลัง ปลุกปล้ำข่มขืน กระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ ผู้เสียหายร้องขอให้ผู้ต้องหา ออกมาส่งกลับบ้านแต่ผู้ต้องหาได้มาส่งผู้เสียหายที่หน้าห้างที่ตนทำงานเท่านั้น ก่อนจะโทรศัพท์หาเพื่อนสาวมารับกลับบ้าน ผู้ปกครองจึงได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า “ได้กระทำชำเราผู้เสียหายจริงแต่เกิดจากความยินยอมของผู้เสียหายเอง” จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเน้นย้ำต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง ว่าต้องสอนเด็กอย่างตรงไปตรงมาให้ระมัดระวังตัว ถ้าจะมีคนมาจับตัวต้องพยายามออกห่าง พยายามไม่อยู่กับผู้ใหญ่ต่างเพศเพียงตามลำพัง อย่างไรก็ดีไม่ใช่แค่เฉพาะกับคนแปลกหน้าเท่านั้นที่เด็กต้องระวังตัวแต่รวมถึงคนใกล้ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน ญาติ หรือแม้แต่พ่อแท้ ๆ บางทีก็เชื่อใจไม่ได้ ควรสอนให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมลักษณะไหนที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งก็ได้แก่ การสัมผัสที่มากเกินปกติ ถูกเนื้อต้องตัว หอมแก้ม กอดจูบลูบคลำ หรือขอดูเด็กเปลือยกาย หากเจอเรื่องทำนองนี้ต้องให้เด็กพูดปฏิเสธให้เป็น และสอนวิธีอยู่ให้ห่างมากที่สุด

ข่าวล่าสุด

ช็อก! คู่รักบันเทิง ส่อแววเลิก ลับหลังฝ่ายชายแอบไปกับสาวอื่น ?!