เดือนร้อนหนัก! หนุ่มวัย 34 ทนไม่ไหว ป่วยจิตเวชจนต้องหาหมอ หลังทนฟังเสียงไก่ชนเพื่อนบ้านขัน 24 ชม. นาน 3 ปี
วันที่ 20 มกราคม 2568 ชาวบ้านในหมู่บ้านหรูร้องเรียนปัญหาเพื่อนบ้านเลี้ยงไก่ชนส่งเสียงดังรบกวนตลอดทั้งวันและคืนเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยนายหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้ร้องเรียนไปยังเพจ “สายไหมต้องรอด” เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาดังกล่าว

นายหนึ่งเล่าว่า เดิมเขาอาศัยอยู่ในทาวน์เฮ้าส์แต่ได้ตัดสินใจนำเงินเก็บทั้งชีวิตมาซื้อบ้านในหมู่บ้านหรูในราคา 7.8 ล้านบาทเมื่อเดือนมีนาคม 2565 โดยช่วงแรกไม่มีปัญหาใด ๆ จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เพื่อนบ้านที่อยู่ด้านหลังเริ่มนำไก่ชนมาเลี้ยง โดยช่วงแรกเลี้ยงเพียงไม่กี่ตัวที่หน้าบ้านทำให้ผลกระทบยังไม่มากแต่ภายหลังจำนวนไก่เพิ่มขึ้นและส่งเสียงดังตลอดเวลา ส่งผลกระทบต่อครอบครัวจนแม่และยายต้องย้ายกลับไปอยู่ที่ทาวน์เฮ้าส์

ไก่ของเพื่อนบ้านขันตลอดทั้งวันและขันทุกนาที บางนาทีขัน 7-8 ครั้ง ซึ่งในขณะให้สัมภาษณ์สื่อก็ยังคงได้ยินเสียงไก่ขัน ผู้เสียหายยังระบุอีกว่า ถ้ารู้ว่าซื้อบ้านแล้วจะมีปัญหาแบบนี้คงไม่เซ็นสัญญาซื้อบ้านตั้งแต่แรก ตอนนี้จะขายก็ไม่กล้าขายเพราะสงสารคนมาซื้อเพราะยังไงก็ต้องเจอปัญหาเดียวกัน

นายหนึ่งเล่าต่อว่า ไก่ชนของเพื่อนบ้านเคยบินข้ามมาขี้และสร้างความสกปรกในบ้านของเขา อีกทั้งเสียงขันยังดังตลอดวันจนส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้เขาต้องเข้ารับการรักษาทางจิตเวชและต้องหาที่ทำงานนอกบ้านเนื่องจากไม่สามารถ Work From Home ได้
ที่ผ่านมา นายหนึ่งพยายามร้องเรียนปัญหาไปยังโครงการบ้าน แต่แม้จะมีการเจรจาและให้เพื่อนบ้านย้ายไก่ออก แต่กลับนำกลับมาเลี้ยงใหม่ทุกครั้ง จนเขาต้องร้องเรียนต่อเพจสายไหมต้องรอด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเพื่อนบ้านมีการเลี้ยงไก่ชน 4 ตัวจริง และเสียงขันยังคงดังอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านไม่ได้ออกมาพูดคุยกับสื่อหรือเจ้าหน้าที่
นางกิติมา งามมุข หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ระบุว่า จะมีการเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเพื่อหาทางแก้ไขในวันพรุ่งนี้ โดยจะขอให้เพื่อนบ้านย้ายไก่ออกอีกครั้ง และหารือกับโครงการบ้านเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีก ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ชี้ว่าการเลี้ยงไก่ในพื้นที่เมืองแบบนี้ไม่เหมาะสม และหากยังคงมีปัญหาเดิม จะต้องให้สำนักงานเขตสายไหมเข้ามาออกข้อบังคับ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป