เหิมเกริม แก๊งจีน ขายสิ้นค้าปลอม แถม แอบอ้างแบรนด์ชื่อดังหลายเจ้า ทั้ง อาหารเสริม ครีมบำรุงผิว อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าแบรนด์เนม
ข่าวประเด็นร้อน กรณี แก๊งจีน ขายสิ้นค้าปลอม แอบอ้างแบรนด์ดัง สืบเนื่องจาก วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ., เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า ได้ร่วมกันตรวจค้น ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นอาคารกักเก็บสินค้า ภายใน ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จับกุม 2 ผู้ต้องหา คือ 1.นายเจียเซียน (Mr.Jiaxian) สัญชาติจีน อายุ 27 ปี และ 2.นายหาง (Mr.Hang) สัญชาติจีน อายุ 19 ปี

จับกุม แก๊งจีน ขายสิ้นค้าปลอม แอบอ้างแบรนด์ชื่อดัง
โดย เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในฐานความผิด มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า ปลอม/เลียน เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และหรือ เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือ ทำให้ปรากฏชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่นนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 272
พร้อมตรวจยึดของกลาง รวม 78,223 ชิ้น พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์โทรศัพท์ เครื่องคอมพิวเตอร์มาตรวจสอบ ถึงเส้นทางการนำเข้าสินค้า บัญชีธนาคารผู้รับประโยชน์ เพื่อขยายผลต่อไปกว่า 12 เครื่อง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 52,307,283 บาท โดยมีของกลางแยกตามประเภท ดังนี้
-สินค้าอุปโภค บริโภค เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โลชั่นทาหน้าและตัว คลีนเซอร์ทำความสะอาดผิว ครีมถนอมผิวหน้า โลชั่นถนอมผิวกายเพื่อความงาม ถุงยางอานามัย วิตามินที่เป็นอาหารเสริม ครีมกันแดด อาหารเสริมโปรตีนชนิดผง เซรั่ม วิตามิน ชุดเครื่องสำอางใช้แต่งหน้า สารที่เตรียมขึ้นเพื่อบำรุงริมฝีปาก (ลิปสติก) ยี่ห้อ Ucore, Amado, BATA OIL, Biore, Centrum, Cetaphil, Eucerin Glory, Life, Mizumi, Durex, Amway, Dr.pong, BlackMore, Judydoll, MOTOROLA, NARS รวมจำนวน 73,817 ชิ้น
-สินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เคสโทรศัพท์ วิทยุสื่อสาร หลอดไฟ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยี่ห้อ Apple, Samsung, Vivo, Redmi, Oppo, HP และ Huawei รวมจำนวน 2,954 ชิ้น
-สินค้าแบรนด์เนม เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม ยี่ห้อ MERGE , RALLY, LONGCHAMP, COACH, Gentle woman, รวมจำนวน 1,452 ชิ้น
โดยพฤติการณ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการระดมกวาดล้างเครือข่ายจำหน่าย สินค้าปลอมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยสืบทราบว่ามีชาวจีนเป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งได้สืบสวน จนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางมหาศาล ที่เป็นสินค้าประเภทครีมบำรุงผิว โลชั่น อาหารปลอม รวมถึงสินค้าแฟชั่น ของแบรนด์เนมที่ละเมิดเครื่องหมายการค้า โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ร่วมสืบสวนหาแหล่งกักเก็บสินค้า อาคารเก็บสินค้าที่ผิดกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติ เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้น ของศาลจังหวัดสมุทรสาคร นำกำลังเข้าค้น อาคารกักเก็บสินค้า ภายใน ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผลการตรวจค้าพบสินค้าปลอม ซึ่งกักเก็บสินค้าไว้ภายในบ้านและโกดัง โดยสินค้าปลอมที่ตรวจพบเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าแบรนด์เนมมากมายกว่า 78,223 ชิ้น มูลค่าความเสียหายมากกว่า 52,307,283 บาท โดยการเข้าตรวจค้นจับกุม ได้มีเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ และตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า มาร่วมตรวจค้น และยืนยันสินค้าว่า เป็นสินค้าที่ปลอม เครื่องหมายการค้าตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 ทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีต่อไป โดยสืบทราบว่า เบื้องหลังการ ลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอมเป็นนายทุนชาวจีน โดยใช้สถานที่เก็บสินค้าเป็นสถานที่ที่อยู่บริเวณชานเมือง เนื่องจากหลีกเลี่ยงการตกเป็นเป้าสายตาและความสะดวกต่อการส่งสินค้าโดยมีการจ้างแรงงานชาวไทยเป็นผู้บรรจุสินค้าส่งกระจายไปทั่วประเทศ
ข่าวที่น่าสนใจ
- กล้องวงจรปิดเผย คำพูดสุดท้ายดีเจเตเต้ หลังพบ เตเต้โอบกอดหญิงปริศนา
- เปิดข้อหา คดีอุ้มฆ่าดีเจเตเต้ ข้อกล่าวหา 12 ข้อ งานนี้ แก๊งโหด อาจโดนประหาร
- เปิดใจ แฟนสาวดีเจเตเต้ เคยเตือนเรื่องผู้หญิงชื่อน้ำ
ทั้งนี้ การระบาดของสินค้าปลอมในสังคมไทย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภค บริโภค กำลังกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรงและใกล้ตัวอย่างยิ่ง ตามที่กองบัญชาการ ตำรวจสอบสวนกลางได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิด โดยพบว่าผลิตภัณฑ์ ปลอมจำนวนมากมีการผสมสารอันตราย เช่น ปรอท ไฮโดรควิโนน และสเตียรอยด์ ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบ ต่อผิวหนัง ระบบภายใน และอาจสะสมจนเป็นอันตรายเรื้อรังในระยะยาว
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยืนยันว่า จะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
