รีวิว วัคซีนmRNA ของคนไทย อาสาสมัครฉีดวัคซีน ChulaCov19 โพสต์รีวิว ติดยกบ้าน แต่ตัวเองรอด! เผยมั่นใจประสิทธิภาพเทียบเท่า Pfizer/Moderna
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นอกเสียจากไทยนำเข้าวัคซีนโควิดจากต่างประเทศแล้วนั้น เรายังเดินหน้าคิดค้นและพัฒนาวัคซีนที่วิจัยโดยคนไทย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือวัคซีน ChulaCov19 เป็นวัคซีนmRNA โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางการวิจัยและพัฒนาวัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ประกาศหาอาสาสมัครหลายจำนวน เพื่อเข้าร่วมโครงการทดลองวัคซีนตัวดังกล่าว
ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รีวิวหลังเป็นหนึ่งในกลุ่มอาสาสมัครฉีดวัคซีน ChulaCov19 รีวิวและอธิบายจากประสบการณ์จริง เมื่อที่บ้านและออฟฟิศของผม ติดโควิดเกือบยกครัวแต่ “ผม” เป็นคนเดียวที่ไม่ติด
ซึ่งได้รับวัคซีนขนาด 25 ไมโครกรัม ครบทั้ง 2 โดสเป็นที่เรียนร้อย ห่างกัน 3 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าของโพสต์เผยว่า วัคซีน ChulaCOV เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่มีพัฒนาและวิจัยต่อยอดจาก Moderna ดังนั้นประสิทธิภาพที่ออกมาจึงมั่นใจได้ว่าเทียบเท่า Pfizer และ Moderna หรืออาจจะดีกว่าสำหรับการป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดลต้า เพราะกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาต่อไปหลังจากทดสอบกับ อสม. กลุ่มแรก
อีกทั้งยังเผยอาการและผลข้างเคียงอย่างละเอียดหลังจากฉีดวัคซีน ChulaCov19 ทั้ง 2 โดส ดังนี้
[โดสแรก] วันที่ 24 มิ.ย. 64 – มีอาการปวดหัวและอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดต่อเนื่องราว ๆ 2-3 วัน ไม่มีไข้ และยังทำงานได้ปกติ
[โดสสอง] วันที่ 15 ก.ค. 64 – ปวดหัวหนักกว่าโดสแรก หลังจากฉีด 2 ชั่วโมง และฝะถึงขั้นซมหลังฉีด 6 ชั่วโมง มีไข้หรือตัวรุม ๆ แต่ไข้ไม่สูง ปวดหัวตลอดทั้งคืน กว่าจะทุเลาลงก็คือวันที่สอง ซึ่งนอนซม รบกวนการทำงานแน่นอน หลังจากนั้นไข้หายในสองวัน ส่วนอาการปวดหัวจะต่อเนื่องไปร่วม 3-4 วันเลยทีเดียว
และจากข้อความการรีวิวในโพสต์ดังกล่าว เผยต่อว่า หลังจากฉีดวัคซีนครบสองโดสได้ราวหนึ่งสัปดาห์ พ่อของผมเริ่มมีอาการป่วย ปวดหัว ไอ ส่วนพนักงานที่ออฟฟิศไปตรวจโควิด Rapid Antigen Test ผลปรากฏว่าติดโควิด จึงมีการตรวจกันทั้งบ้าน ผลลัพธ์ คือพนักงานออฟฟิศติด 2 คน ไม่ติด 1 (ซึ่งคนที่บ้านของพนักงานติดเกือบยกครอบครัว), และพ่อของผม เพื่อความแน่ใจ ทางโครงการวิจัยได้นัดให้ผมไปตรวจ RT-PCR อีกรอบ เพราะผมกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วย ซึ่งผลออกมาว่า ผมไม่มีเชื้อโควิดจริงๆ
ข่าวที่น่าสนใจ
