เปิดคำสารภาพ นักโทษชายแหกคุก คดียาเสพติด ทั้งๆที่ใกล้พ้นโทษอยู่แล้ว เจ้าตัว เผย คิดถึงปู่ จึงนั่งรถไฟกลับบ้านสรุปติดต่อยาวๆ
สืบเนื่องจากกรณี นักโทษชายหลบหนี คดียาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ต้องขังชายเรือนจำชั่วคราวห้วยกลั้ง ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้หลบหนีออกจากเรือนจำตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. โดยทางด้านเจ้าหน้าที่ได้ระดมปูพรมค้นหาแต่กลับไม่เจอตัว ล่าสุดวันนี้ (21 ม.ค. 68) เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนักโทษคนดั่งกล่าวได้ที่ บริเวณสถานีรถไฟควนหินมุ้ย อ.หลังสวน จ.ชุมพร ดังที่รายงานไปแล้วนั้น
ต่อมา จากการสอบสวน นายเชาวพัตร์ ให้การสารภาพว่า เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว และได้มาอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวแห่งนี้เพื่อรอพักโทษก่อนปล่อยตัว โดยทางเรือนจำได้ให้ผู้ต้องขังแห่งนี้ฝึกวิชาชีพก่อนปล่อยไปจะได้มีอาชีพติดตัว ส่วนตนอยู่ประจำแผนกล้างอัดฉีด ซึ่งตนคิดถึงบ้าน จึงฉวยโอกาสหลังจากที่แม่และญาติมาเยี่ยม และเมื่อกลับไปได้ฝากเงินไว้ให้ 500 บาท
นายเชาวพัตร์ ให้การอีกว่า ตนจึงเดินออกไปจากแผนกล้างรถ โดยเดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเลียบรางรถไฟก่อนจะเดินขึ้นไปอยู่บนเขาน้ำทรัพย์ ซึ่งห่างจากเรือนจำไปไม่มากนัก
อยากกลับบ้านไปหาปู่
นายเชาวพัตร์ ให้การต่อว่า เมื่อเดินขึ้นไปอยู่บนยอดสุดของเขาน้ำทรัพย์ ก็ได้นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่บนเขา และตนก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจากที่สูงกำลังเดินหาตน จึงได้เก็บซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งช่วงเช้ามืดจึงได้เดินลงมาจากเขา มุ่งหน้ามาที่สถานีรถไฟบ้านควนหินมุ้ย เพื่อจะนั่งรถไฟไปลงที่สถานีทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เพื่อไปหาปู่
นายเชาวพัตร์ ให้การอีกว่า และก่อนจะขึ้นไปที่สถานีรถไฟ ก็ได้แอบเอาเสื้อของชาวบ้านที่ตากแขวนไว้มาเปลี่ยนใส่ และขึ้นไปนั่งบนห้องโดยสารเตรียมเดินทาง แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ฉลาด กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หลังสวน ได้รับการประสานพร้อมแจ้งความจากเจ้าหน้าที่เรือนจำหลังสวนแล้ว ก็ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ออกค้นหา ที่คาดว่าผู้ต้องขังรายนี้จะไป แต่ที่ผ่านมาตลอดทั้งคืน ก็ไม่พบ
พ.ต.อ.ฉลาด กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายผู้ต้องขังที่หลบหนี จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายเชาวพัตร์ ผู้ต้องขังที่หลบหนีไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายจับมาแสดงพร้อมนำมาสอบสวนที่ สภ.หลังสวน และแจ้งข้อกล่าวหา ฐาน “หลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา” ส่งดำเนินคดีต่อไป
