ผลสรุปออกแล้ว! เหตุ รถทัวร์มรณะ ดับ 14 ศพ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งฝั่งซ้ายของรถ พบความเร็วก่อนเกิดอุบัติเหตุ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สืบเนื่องจากเหตุการณ์อุบัติเหตุ รถทัวร์มรณะ หรือรถทัวร์โดยสาร สายกรุงเทพฯ-นาทวี ของบริษัทศรีสยามเดินรถจำกัด เกิดอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 35 รายและ เสียชีวิต 14 ราย โดยที่เกิดเหตุคือ ถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 331-332 หมู่ 7 ต.ห้วงยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในเบื้องต้น ได้มีการสันนิฐานสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า คนขับอาจจะประมาทหรือหลับในจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือ อาจจะมีรถตัดหน้ากระทันหัน ทำให้รถทัวร์เสียหลักตกลงข้างทาง
ขณะที่คนขับรถ นายสมศักดิ์ อายุ 38 ปี นั้นมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย และเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจว่า ตอนนี้อาการดีขึ้นมาก แต่ยังมีอาการช้ำในและแผลแตกบริเวณศีรษะและคาง ซึ่งนายสมศักดิ์ นั้นเล่าว่าก่อนขับรถในเที่ยวนี้ ตนป่วยเป็นหวัด แต่ไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบ ซึ่งตอนขับนั้นไม่ได้มีอาการป่วยหนัก แต่หลังจากที่จอดพักรถ ณ ร้านอาหาร ตนได้งีบหลับไป จากนั้นก็ขับรถได้ปกติ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็วูบไปเฉยๆ มารู้สึกตัวอีกทีคือหลังเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว
สำหรับประเด็นขวดน้ำกระท่อมที่พบในรถ ตนยอมรับว่าพกไปเพื่อที่จะดื่มจริงๆ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ดื่มระหว่างขับรถแม้แต่นิดเดียว และตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงอยากขอโทษครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้ หลังตรวจสอบสภาพ รถทัวร์มรณะ คันดังกล่าว ก็ได้บทสรุปว่า จากการตรวจสอบร่องรอยการเบรกของล้อรถ จุดที่ล้อรถทัวร์เริ่มลงข้างทางก่อนพุ่งชนต้นไม้ โดยสภาพรถฉีกขาดเสียหายจากการชนอย่างรุนแรง วัดความยาวจากส่วนหัวรถไปถึงจุดที่แผลฉีกขาดได้ 6 เมตร
พบผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายของรถ
พันจ่าอากาศเอก ฉัตรชัย สวียานนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ห้วยยาง กล่าวว่า ตนพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย อบต.ห้วยยาง ได้มาช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ โดยหากหันหน้าเข้าหารถทัวร์ พบว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ จะอยู่บริเวณด้านซ้ายของตัวรถ เบาะที่นั่งปิดทับ โดยชั้นบน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ด้านล่าง 3 ราย และร่างกระเด็นหลุดตกออกมานอกรถอีก 4 ราย รวมผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย
นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำหรับความเร็วของรถทัวร์นั้น ทราบข้อมูลจากขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ตรวจสอบความเร็วได้ประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แต่ต้องไปดูเรื่องอื่นประกอบด้วย เช่น หลับในหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
ที่มา : ข่าวสด
