ทช. พบซากโลมาหัวบาตรเกยตื้น ณ ชายหาดอุทยานฯ สิรินธร จ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่ เร่งหาสาเหตุการตาย พบรอยช้ำตามลำตัวโลมา
วันที่ 26 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก (ศวบต.) ได้รับแจ้งจากคุณจุฑามาศ กาญจนมล เจ้าหน้าที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร เรื่องพบซากโลมาเกยตื้น ณ ชายหาดอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ค่ายพระรามหก ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นั้น
เจ้าหน้าที่ ศวบต. ตรวจสอบพบเป็นโลมาหัวบาตรหลังเรียบ (Finless porpoise : Neophocaena phocaenoides) เพศเมีย โตเต็มวัย ความยาว 128 ซม. น้ำหนักประมาณ 35 กก. สัตวแพทย์ทำการชันสูตรพบว่าสภาพซากเน่า ผิวหนังลอกหลุด พบรอยช้ำคั่งเลือดใต้ผิวหนังและกล้ามเนื้อ บริเวณคอ ช่องอก และช่องท้องด้านซ้าย
ระบบทางเดินหายใจ พบปอดด้านซ้ายช้ำคั่งเลือดอย่างรุนแรง ระบบทางเดินอาหาร ไม่พบอาหารในกระเพาะอาหาร แต่พบอาหารตลอดแนวลำไส้ ไม่พบสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ พบพยาธิตัวกลมจำนวนมากบริเวณกระดูกหู หัวใจ ตับ ไต ม้าม กระเพาะปัสสาวะ เน่าสลาย สรุปสาเหตุการตายเกิดจากการถูกกระแทกเข้าด้านซ้ายของลำตัวโดยของแข็งไม่มีคมอย่างรุนแรง
มารู้จัก โลมาหัวบาตร
โลมาอิรวดี หรือ โลมาหัวบาตรมีครีบหลัง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Orcaella brevirostris) เป็นโลมาที่มีหัวกลม ลำตัวสีเทาหรือน้ำเงินเข้ม ความยาวประมาณ 178-274 เซนติเมตร ช่วงท้องมีสีเทาอ่อนกว่ามีครีบหลังเล็กๆ เป็นรูปร่างสามเหลี่ยมปลายมน และครีบข้างที่กว้างและยาว น้ำหนักตัวจะอยู่ประมาณ 98-159 กิโลกรัม ตามข้อมูลบอกว่าเจอโลมาน้ำจืดชนิดนี้ครั้งแรกในแม่น้ำอิรวดี ประเทศเมียนม่า เลยเรียกว่า “โลมาอิรวดี”
สาเหตุการตาย
สาเหตุที่ทำให้โลมาอิรวดีตายเป็นจำนวนมาก มาจากการทำประมงที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วหลังปี พ.ศ. 2545 ซึ่งนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นกับสัตว์น้ำ โดยมีโลมาติดเครื่องมือประมงมากถึงร้อยละ 60 กอปรกับการทำประมงที่เติบโตขึ้นทำให้สัตว์น้ำแหล่งอาหารของโลมาถูกแย่งชิงไปในคราวเดียวกัน
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้โลมาลดลงยังเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ชนใบพัดเรือ และการเพิ่มขึ้นของตะกอนที่ถูกชะล้างมาจากบกจนเกินพอดี ทำให้ที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลง ตลอดจนภาวะเลือดชิดจากจำนวนที่เหลือน้อยจนต้องผสมพันธุ์กันในวงจำกัด จนทำให้โลมามีสภาวะร่างกายที่อ่อนแอ
ติดตามข่าวสาร Bright today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
