อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังจัดการปัญหาดินโคลนไหลมากับอุทกภัยไม่เสร็จ ชาวบ้านต้องเผชิญปัญหา ฝุ่น เกิดจากดินโคลนแห้ง
วันที่ 21 กันยายน 2567 การจัดการปัญหาดินโคลนที่ไหลมากับน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ประสบอุทกภัย อําเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตลอด 11 วันที่ผ่านมา ยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่ชาว อําเภอแม่สาย ต้องเผชิญ นั่นคือปัญหาเรื่องฝุ่น
บริเวณถนนพหลโยธินติดกับด่านชายแดนแม่สาย บนผิวถนนเต็มไปด้วยฝุ่น ชาวบ้านต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหลายอย่าง รวมถึงยังกังวลเรื่อง พายุซูริก ที่กําลังเคลื่อนตัวเข้ามาทาง ภาคเหนือของ ประเทศไทย รถยนต์ของชาวบ้านที่นํามาจอดเอาไว้เพื่อหลบภัยน้ําท่วมในพื้นที่ อําเภอแม่สาย เต็มไปด้วยฝุ่นที่เกิดจากดินโคลน เมื่อแห้งกลายเป็นฝุ่นละอองหนาแน่นเต็มพื้นที่ ขณะที่ในชุมชนต่าง ๆ ยังคงมีปัญหาดินโคลนสะสมอยู่เป็นจํานวนมาก
ผู้ประกอบการรายหนึ่งที่อยู่ติดถนนพหลโยธิน ใกล้ด่านชายแดนแม่สาย ต้องทําความสะอาดบ้านทุกวัน และอดทนกับปัญหาฝุ่น แม้จะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ําท่วมมากนัก แต่ก็เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาดินโคลนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
การสัญจรบนถนนพหลโยธินติดด่านอําเภอแม่สาย มีรถยนต์เป็นจํานวนมาก เนื่องจากบริเวณตลาดใกล้ชายแดนเปิดขายสินค้าที่เหลือจากน้ําท่วมในราคาถูก ดึงดูดความสนใจจากประชาชนให้เดินทางเข้ามาจับจ่าย ภายในตลาดถนนเทศบาล 1 ติดกับด่านชายแดนอําเภอแม่สาย บรรยากาศคึกคัก ทั้งชาวไทยและเมียนมา เดินทางมาเลือกซื้อสินค้าจํานวนมาก เนื่องจากมีการนําสินค้าน้ําท่วมมาขาย ลดราคาเกือบ 80% หลังจากผู้ประกอบการนําสินค้าที่รอดชีวิตจากน้ําท่วมมาขายในราคาถูก ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ผ้าห่ม และเสื้อกันหนาว ในราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย
- กรมอุตุฯ เตือน ไทยฝนตกหนัก ทะเลอันดามัน-อ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง
- รวบแล้ว! ลุงฆ่าสาวใหญ่หมกห้องพัก แค้นโดนหลอกเอาแต่เงินทุกบาท
- ใจมาร! พบทารกหญิงแรกเกิด ในห้องน้ำวัด ชาวบ้านสุดน่าเวทนา
นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทอื่นๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของประดับ ขนม และของใช้ต่างๆ โดยสิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ผ้าห่ม ผู้ประกอบการรายหนึ่งเปิดเผยว่า โกดังเก็บสินค้าของเขาเสียหายจากน้ําท่วมและโคลนเป็นจํานวนมาก สินค้าที่นํามาขายเป็นเพียงส่วนน้อยที่รอดชีวิตมาได้
หลายจังหวัดภาคเหนือยังคงติดตามการเคลื่อนไหวของพายุซูลิกอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนตกหนักและน้ําท่วมฉับพลัน แม้ว่าพายุจะอ่อนกําลังลงแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถประมาทได้ ชาวบ้านห้วยเสือเฒ่า ตําบลผาบ่อง อําเภอเมือง แม่ฮ่องสอน ตรวจสอบเครื่องวัดปริมาณน้ําฝน เพื่อประเมินสถานการณ์ เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเสี่ยงต่อน้ําป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเปิดเผยว่า เมื่อมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จะต้องตรวจสอบระดับน้ําอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ําสูงขึ้นถึงเกณฑ์สีเขียว สีเหลือง และสีแดง จะรายงานไปยังกลุ่มไลน์ของหน่วยงาน เพื่อประเมินสถานการณ์และเตือนภัยให้ประชาชนเฝ้าระวัง รวมถึงเตรียมพร้อมอพยพ โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เชิงเขาและริมแม่น้ำ เช่นเดียวกับบ้านป่าแดง ตําบลป่าแดง อําเภอเมือง แพร่
