อย่าหาทำ! นักท่องเที่ยวต่างชาติ 80 ปี อาบแดดกลางหาด จ.ภูเก็ต ทำชาวบ้านช็อก นอนเสียชีวิต 4-5 โมง เพราะฮีทสโตรก
วันที่ 5 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.45 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรน ได้รับแจ้งเหตุว่า พบศพนักท่องเที่ยวหญิงชาวต่างชาตินอนเสียชีวิตบริเวณชายหาดกะตะ ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

บริเวณที่เกิดเหตุพบร่างนางคาเรน หญิงชาวแคนาดา วัย 80 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบนชายหาด สวมใส่ชุดว่ายน้ำ ตามร่างกานมีรอยเขียวช้ำบางส่วน แต่ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายและการต่อสู้ ทรัพย์สินคีย์และการ์ดโรงแรมอยู่ครบ

ล่าสุดวันนี้ 6 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. นายวุธ ไลฟ์การ์ด เผยว่า มีผู้ประกอบการร่มเตียงหน้าหาดมาแจ้งให้ตนไปตรวจสอบนักท่องเที่ยวนอนอาบแดดเนื่องจากเห็นนอนไม่ขยับตัวมาสักพักแล้ว พอไปตรวจดูนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวก็พบว่า นักท่องเที่ยวรายนี้นอนคว่ำหน้าอาบแดดอยู่บริเวณพื้นทรายหน้าหาด พอตรวจอบทำให้รู้ว่าเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.กะรน มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเดินลงมาอาบแดดบริเวณหน้าหาดกะตะช่วงเวลาประมาณ 09:00 น. และไม่ขยับตัว ขณะคลื่นลูกใหญ่ซัดชายหาด นักท่องเที่ยวรายอื่นวิ่งหนีหมด แต่หญิงคนดังกล่าวนอนนิ่งไม่ขยับตัว จึงทำให้ผู้ประกอบการผิดสังเกตุจึงแจ้งตนให้เข้าไปตรวจสอบ
- หาทำเกิ๊น! หนุ่มวัย 47 สวมแหวนรัด ‘ไอ้จ้อน’ สุดท้ายอักเสบหวิดต้องตัดทิ้ง
- ช็อกทั้งตึก! รพ. วุ่นตามหาผู้ป่วยทั้งคืน สุดท้ายพบเป็นศพ ดิ่งตึก 4 ชั้นดับ
- สารภาพแล้ว! ปมศพถูกฆ่าหมกป่า ที่แท้เมีย-ลูกลงมือ หวังฮุบสมบัติ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม พบว่า ช่วงประมาณเวลา 10.23 น. ผู้เสียชีวิตได้ออกจากห้องพัก และเดินลงมาสอบถามพนักงานเกี่ยวกับทางไปหาดกะตะ ก่อนเดินออกจากโรงแรมไปตามปกติ ไม่มีอาการเจ็บป่วยหรือผิดสังเกต โดยผู้เสียชีวิตเดินทางมาพักที่โรงแรมเพียงลำพัง ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2568 และมีกำหนดออกจากโรงแรมในวันที่ 6 มีนาคม 2568
ต่อมา แพทย์จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้เข้าชันสูตรศพเบื้องต้น เผยว่า ผู้เสียชีวิตเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-6 ชั่วโมง และไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายหรือบาดแผลใดๆ คาดว่าอาจเกิดจาก ภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงเกินไปส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้และเสียชีวิตในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการชันสูตรโดยละเอียดเพื่อยืนยันสาเหตุที่แน่ชัด