สลด ผอ.หญิง ถูกสามีจ่อยิง ขณะขับรถ ก่อนยิงตัวตายตามข้างกัน คนเห็นเหตุการณ์เล่าระทึก สามีลดกระจกถามชาวบ้าน ”มันอยากตาย” ก่อนจ่อยิง
วันที่ 19 ก.พ.68 เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.อำนวย หนองหาญ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ. บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บ้านคูขาด ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.คูเมือง ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนกลางหมู่บ้านคูขาด พบรถยนต์กระบะ4ประตู ยี้ห้ออีซูซุสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 250 ระนอง จอดอยู่ ภายในรถพบนางณหทัย ขุนแผ้ว อายุ52ปี เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง (โรงเรียนบ้านหนองแวง) ต.พะไล อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เป็นคนขับรถนอนฟุบคาพวงมาลัย สภาพถูกยิงบริเวณท้ายทอยกระสุนทะลุปากไปโดนกระจกประตูซ้าย หายใจรวยริน หน่วยกู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลคูเมือง
บริเวณเบาะข้างหน้ารถพบนายสมศักดิ์ ขุนแผ้ว อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่194 ม.10 บ้านคูขาด ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ถูกกระสุนยิงบริเวณขมับขวาทะลุขมับซ้าย กระสุนทะลุออกจากรถไปโดนบ้านเรือนชาวบ้าน และพบปลอกกระสุนจำนวน 2 นัดหล่นอยู่ในรถ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของชาวบ้าน เวลา 09.23 น. พบรถกระบะคันเกิดเหตุกดแตรเสียงยาวผ่านหน้ากล้อง ไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจนสุนัขของเจ้าของกล้องตื่นตระหนกกับเสียงปืน ร.ต.ต.สมโภชน์ เรือนใหม่ อายุ 71 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนนั่งอยู่หน้าบ้านได้ยินเสียงแตรรถยนต์ลักษณะบีบยาวตามถนน
จากนั้นรถคันดังกล่าวมาจอดอยู่หน้าบ้านของตน เห็นนายสมศักดิ์ ฝ่ายสามีซึ่งนั่งมาด้านข้างคนขับ ลดกระจกลงมาแล้วพูดกับตนว่า ”มันคงอยากตาย” แล้วใช้ปืนจ่อยิง นางณหทัย ทันที 1 นัด จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้ขึ้นกระจกรถไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัดคาดว่าน่าจะยิงตัวเองแล้วเสียชีวิตดังกล่าว และคาดว่าทั้งสองน่าจะทะเลาะกันอยู่บนรถแล้วฝ่ายหญิงน่าจะกดแตรขอความช่วยเหลือ
ด้านนายสมพาน เดิมธัมนัมย์ อายุ 60 ปี พี่ชาย ผอ.ที่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่าทั้งสองคนไม่มีบุตรด้วยกัน ฝ่ายชายมีอาชีพขายหมูปิ้ง ส่วนฝ่ายหญิงรับราชการเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งห่างจาก อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ประมาณ 25 กม.
เท่าที่ทราบฝ่ายชายหึงหวงไม่พอใจที่มีข้อความจากครูที่โรงเรียนเขียนเข้ามาจนดึกดื่น ทั้งที่ภรรยาพยายามอธิบายว่าไม่มีอะไร ประกอบกับฝ่ายชายป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้มานานกว่า 5 ปี เหตุการณ์ครั้งนี้ส่วนตัวเชื่อว่าน้องเขย น่าจะเครียดเรื่องโรคประจำตัวมากกว่า แล้วเอามาลงเอยแบบนี้
