เมียเล่าทั้งน้ำตา กลับมาบ้านไม่เจอผัว เผย สาเหตุมีปากเสียงกัน จึงล็อกห้องขังผัวไว้ เพื่อให้อารมณ์เย็นลง สุดท้ายพบเป็นศพแล้ว
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 26 ก.ค.67 ร.ต.ท.อนุสรน์ เวียงสิมา รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีคนกระโดดหอพักร่างตกลงมากระแทกพื้นเสียชีวิต ที่เกิดเหตุหอพักแห่งหนึ่งภายในซอยไทยธานี 18 ม.19 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต..มนตรี คงอาจ สวป.สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวงแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง5ชั้น ข้างหอพักด้านทิศตะวันออกพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อนายนันทวุฒิ โยธี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.4 ต.เป้า อ.ตระกาลพืชผล จ.อุบลราชธานี สภาพสวมกางเกงขาสั้นบ๊อกเซอร์ ไม่สวมเสื้อมีบาดแผลที่ศีรษะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขึ้นไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นชั้น3 ห้องเลขที่ 237 พบประตูห้องเปิดอยู่มีกุญแจล๊อคสายยูวางอยู่ที่รองเท้าหน้าห้องและมีลูกกุญแจตกอยู่ที่พื้นหน้าห้องใต้ชั้นวางรองเท้า ภายในห้องหน้าห้องน้ำพบกับข้าวพร้อมกระติ๊บข้าวเหนียววางอยู่
ทางด้านนายเอ นามสมมุติอายุ 17 ปีซึ่งพักอยู่ห้องพักชั้นที่ 4 เปิดเผยว่า ตนเองมองอยู่ที่หน้าระเบียงพบผู้หญิงวิ่งออกจากหอไปทางด้านท้ายซอยเหมือนกระวนกระวายอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะมีผู้พบชายที่พักอาศัยอยู่ห้อง237ชั้น3 จะกระโดดจากห้องพักลงไปเสียชีวิต กระทั่งทราบว่าหญิงที่วิ่งออกจากถึงไปคือภรรยาผู้เสียชีวิตโดยคนที่พักห้องข้างกันได้ยินเสียงสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันก่อนเกิดเหตุ
เวลาผ่านไปประมาณ45นาที นางสาวเอวิกา ผิวขาว อายุ 32 ปี ภรรยาผู้ตายจึงได้เดินกลับมาจากทางด้านท้ายซอยก่อนเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองพึ่งมาอยู่ที่หอพักแห่งนี้เมื่อวันที่ 20 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้สามีหลังเลิกงานมาก็ได้กินเหล้ามาจากที่ทำงานและก็ได้ทะเลาะกัน จากนั้นตนเองจึงออกจากจากห้องโดยล๊อคกุญแจคล้องสายยูที่หน้าห้องเอาไว้โดยที่สามีอยู่ภายใน ก่อนที่ตนเองจะเดินออกจากหอพักเพื่อสงบสติอารมณ์เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกันสามีจะทำร้ายร่างกายและเคยไปแจ้งความไว้ที่ตำรวจแล้วครั้งหนึ่ง
กระทั่งเวลาผ่านไปหลังจากตนเองล๊อคห้องและเดินออกไปจากหอพักประมาณ30นาที จึงขึ้นไปที่ห้องพักและไขกุญแจห้องออกไว้เพราะสามีโทรไปตาม จากนั้นได้เดินลงมาด้านล่างเพื่อเดินออกไปท้ายซอยอีกครั้ง กระทั่งมาทราบข่าวว่าสามีตนเองกระโดดห้องพักลงไปด้านล่างจนเสียชีวิตทำให้ตนเองตกใจมาก สำหรับตนเองและสามีอยู่กินกันมานานแล้วโดยมีลูกด้วยกัน2คน
ร.ต.ท.อนุสรน์ เวียงสิมา รองสว.สอบสวนสภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานเชิญภรรยาไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สภ.คลองหลวง และได้ให้เอาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
