แค่วันแรกก็ดราม่าอีกแล้ว! วัยรุ่นรถแห่กาฬสินธุ์ ฉีดน้ำเล่นสงกรานต์ สนุกสนานคึกคักไร้มาตราการป้องกันการแพร่ระบาด แถมยังฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค.
กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนอีกครั้งเมื่อผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งได้มีการโพสต์คลิปภาพบรรยากาศขบวนรถแห่ ซึ่งเป็นการจัดเทศการสงกรานต์โดยมาการฉีดน้ำ เต้นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งผู้ร่วมขบวนบางคนไม่มีการใส่หน้ากากอนามัย อีกทั้งยังมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการฝ่าฝืนตามคำสั่งของ ศบค. ในการรักษามาตราการป้องกันการแพรระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปีนี้เป็นปีแรกที่ทางรัฐบาลไม่ได้ห้ามอย่างจริงจังในการเล่นน้ำสงกรานต์ เพียงแต่การเล่นน้ำนั้นขอให้อยู่ในขอบเขตที่มีการระบุเอาไว้เท่านั้น
ซึ่งอย่างที่หลายคนพอจะทราบกันดีว่าภายในปีนี้ทางรัฐบาลได้ประกาศ ตามราชกิจจานุเบกษา 1.พื้นที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะหรือพื้นที่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ได้ ให้ผู้ประกอบการ ผู้จัดงาน หรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจัดงาน จัดสถานที่และดำเนินกิจกรรมภายใต้ มาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน รวมทั้งมาตรการปลอดภัย สำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังนี้
1.1การจัดกิจกรรมในลักษณะของการเล่นน้ำหรือจัดกิจกรรมตามวัฒนธรรมประเพณี เช่น การสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัว การละเล่นตามประเพณี การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ หรือการแสดงดนตรี สามารถกระทำได้
1.2ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการเล่นประแป้งและกิจกรรมในลักษณะปาร์ตี้โฟม
1.3ห้ามการจำหน่ายและการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในบริเวณพื้นที่ จัดกิจกรรม
1.4ให้มีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าออกและให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้าและออกจากสถานที่ หรือพื้นที่จัดกิจกรรม
1.5ให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดตามขนาดของสถานที่หรือพื้นที่จัดกิจกรรม เกณฑ์ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1 คน
2.ห้ามการเล่นน้ำ เล่นประแป้ง ปาร์ตี้โฟม หรือกิจกรรมใดๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการ ระบาดของโรค ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตให้จัดกิจกรรม
3.สำหรับการจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชน สามารถดำเนินการได้ โดยให้ ศปก. ในพื้นที่ที่ตั้งของชุมชนนั้นๆ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาอนุญาต และต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่สอดคล้องกับแนวทางและมาตรการที่ในข้อกำหนดนี้ด้วย
4.สถานที่หรือการจัดกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้เกิดมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรค ให้ผู้ประกอบการหรือผู้มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินมาตรการความปลอดภัยตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการ กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะด้วย