นาทีชีวิต! เด็กชาย 10 ขวบหนีตาย เจอแก๊งลักเด็กขับกระบะตาม-ใช้ขนมล่อเด็ก ผู้ปกครองผวา สพป.ประกาศเตือน สั่งคุมเข้มทุกโรงเรียน
จากกรณีเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หลังมีชายต้องสงสัย 3 คน ขับรถกระบะมาจอดหน้ารั้วโรงเรียน และพยายามเรียกเด็กนักเรียนให้ไปรับขนมและน้ำหวาน สร้างความหวาดวิตกให้กับครูและผู้ปกครองในพื้นที่ จนเกิดกระแสข่าวแพร่สะพัดบนโลกออนไลน์

วันที่ 17 ก.พ. 2568 เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่เกิดเหตุ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ป.4 ขี่จักรยานไฟฟ้ากลับบ้านช่วงเที่ยง พบชาย 3 คนในรถกระบะสีขาว พยายามเข้ามาหา ขณะตนเองอยู่ตามลำพังที่บ้านของยาย ด้วยความกลัวจึงรีบหนีขึ้นไปหลบบนบ้านชั้นสอง โดยชายกลุ่มดังกล่าวเฝ้าอยู่หน้าบ้านประมาณ 10 นาที ก่อนรีบขับรถออกไป

ด้านนางแจ่มจันทร์ผู้เป็นยาย เผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนออกไปทำงานนอกบ้าน หลานเล่าว่า ตัวเองขี่รถจักรยานไฟฟ้ารถกระบะคันดังกล่าวขับตามมาและพยายามเรียกให้ขึ้นรถ หลานจึงเร่งเครื่องจักรยานไฟฟ้าหลบหนีไปทางร้านค้าในหมู่บ้าน ก่อนตัดสินใจเข้าไปหลบในบ้านและโทรศัพท์แจ้งแม่ให้มารับตัว
นอกจากนี้คนร้ายยังพยายามพูดจาหว่านล้อมและเรียก ด.ช. เอ ว่า “หนูๆมารับขนม” จนทำให้เด็กน้อยตกใจโทรหาแม่ว่ามีคนแปลกหน้าตามมา พอแม่มาคนร้ายก็หนีไปแล้วจึงคาดว่า น่าจะเป็นแก๊งลักเด็ก ส่วนจะลักเด็กไปเพื่อเจาะเอาดวงตาตามที่เป็นกระแสข่าวหรือไม่ก็ยังเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าผู้ปกครอง
ทางด้าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม (สพป.) เขต 2 ได้รับรายงานเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันในโรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ โดยพบว่ามีบุคคลแปลกหน้าขับรถกระบะมาจอดเรียกเด็กให้รับขนมและน้ำหวาน ครูในโรงเรียนสังเกตเห็นความผิดปกติและสั่งให้นักเรียนกลับเข้าอาคารเรียน ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะรีบขับออกไป
สพป.นครพนม เขต 2 ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนด่วนถึงทุกโรงเรียนในพื้นที่ ให้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ดังนี้
- ประสานผู้นำชุมชนเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและนักเรียนตระหนักถึงภัยคุกคาม
- ครูและผู้บริหารโรงเรียนเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลนักเรียน และสอนวิธีป้องกันตัวเอง
- แจ้งเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังการเดินทางของบุตรหลาน
- หากพบเหตุการณ์ต้องสงสัย ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งสืบสวนหาตัวกลุ่มต้องสงสัย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต
