เปิดใจ! ป้าวัย 58 กู้เงินซื้อรองเท้ามาขาย จู่ ๆ ถูกขโมยไป จนหมดตัว

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กและเพจข่าวในพื้นที่อุดรธานี โพสต์ภาพชาวบ้านกำลังเลือกเอารองเท้ามือ 2 และระบุข้อความว่า “ไผบ่มีเกิบมาเอาเด้อครับ 555 สงสัยเจ้าของใส่แล้วเลยเบื่อ พิกัด ทุ่งนามนบ้านหัวขัว” จนมีชาวบ้านจำนวนมาก แห่มาเอารองเท้าที่ถูกนำมากองทิ้งไว้สวนสาธารณะทุ่งหนองนามน บ.หัวขัว ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นั้น

ล่าสุดเ ช้าวันนี้ (20 ธ.ค.67) นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากนางลออง เกิดดี อายุ 58 ปี ชาว จ.อ่างทอง ซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าของรองเท้า ขอให้ช่วยติดตามผู้ที่โพสต์ข้อความว่ารองเท้าแจกฟรี เนื่องจากเชื่อว่ารองเท้าที่ชาวบ้านเอาไปเกิดจากรับข่าวสารที่ผิดว่าแจกฟรี หลังรับแจ้งจึงประสานักข่าวพื้นที่ทำข่าวตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมพานางละอองฯ

โดยนางละอองพร้อมผู้สื่อข่าวและเฮียเปี๊ยก ร่วมลงพื้นที่ยังจุดที่ชาวบ้านมาเอารองเท้าและพบว่ามีชาวบ้าน จำนวนหนึ่งกำลังมาเลือกรองเท้า นางละอองฯ จึงได้แสดงตนว่ารองเท้าจำนวนนี้มีเจ้าของ จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศบาลฯกุดจับ ได้ปรี่มาพูดต่อว่านางละอองว่า เอาของมาไว้ทำไมไม่แจ้งไม่บอกเจ้าของที่ก่อน ความผิดนี้อยู่กับป้าละออง ซึ่งนางละอองฯให้เห็นผลว่ามันค่ำแล้วเอาวางไว้ไม่นานก็จะมาเอา เรื่องนี้ยอมรับว่าผิด แต่ถ้าไม่มีคนไปโพสต์ว่าแจกฟรีคงไม่มีใครมาเอา ฉันจะเอาผิดกับคนโพสต์และเพจข่าวที่เอาไปลง

นางละออง เปิดเผยว่า รองเท้าดังกล่าวที่ชาวบ้านมาเอาไปนั้นเป็นของตน โดยเอาไปพักไว้และเตรียมจะเอาไปขายต่อที่อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เอาไปไว้ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 67 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าเมื่อวานก็เห็นคนมาโพสต์บอกว่ารองเท้าแจกฟรี จนมีชาวบ้านมาแห่มาเอาเกือบหมด ชาวบ้านที่มาเอานั้นเขาก็ไม่รู้ว่ารองเท้านี้มีเจ้าของตนยืนยันว่ารองเท้าที่เอาไปไว้ที่ข้างหนอง อำเภอกุดจับนั้น ไม่ได้แจกฟรี

เรื่องนี้ตนอยากให้คนที่โพสต์ข้อความว่าแจกฟรีออกมารับผิดชอบ ซึ่งหากเขาไม่โพสต์ชาวบ้านก็คงไม่มาแห่ไปเอาฟรี อีกทั้งสำนักข่าวต่าง ๆ ที่เอาข่าวนี้ไปออกก็อยากจะให้ออกมาช่วยเหลือเยียวยา รองเท้าที่เอาไปไว้ประมาณ 350 กระสอบ คิดเป็นเงินต้นทุนแล้ว 80,000 บาท (รวมค่าขนส่ง) หากขายได้หมดก็จะได้เงินประมาณ 400,000 บาท โดยรองเท้าแต่ละคู่จะขายคู่ละ 39 บาท ทั้งนี้เงินลงทุนตนก็ไปกู้มา

เมื่อวานหลังรู้ข่าวก็ลงพื้นที่ไปดูรองเท้าไปถึงเห็นชาวบ้านรุมเอารองเท้าเข่าอ่อนแทบช็อค การที่ตนเอาของไปวางไว้แล้วไม่ได้แจ้งให้กับเจ้าของพื้นที่ทราบอีกอย่างช่วงนั้นค่ำแล้ว แล้วตนต้องรีบมาขายของที่หน้าโรงหนังวิสต้าก่อน ซึ่งจุดนี้ตนก็ยอมรับผิดแต่ที่ผิดกว่าก็คือคนที่โพสต์ ฝากถึงชาวบ้านที่เอารองเท้าไปขอให้ช่วยต่อทุน หากรู้ว่าเอาไปก็ให้โอนเงินยัง เลขบัญชี 144-122-8550 นางละออง เกิดดี ธนาคารกสิกรไทย โดยจะเอาไปเงินที่ได้จะมาหรือน้อยไปทำทุนต่อ

จากนั้นผู้สื่อข่าวและเฮียเปี๊ยก ได้พานางละอองฯ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ โดยมี พ.ต.อ.อมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี รับเรื่องร้องทุกข์ ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปหาผู้ที่โพสต์แต่กลับพบว่าไม่อยู่ เมื่อผู้สื่อพยายามโทรติดต่อทางโทรก็ไม่รับสาย

นายพันธ์ อายุ 70 ปีชาวบ้านที่มาเลือกรองเท้า นึกว่ารองเท้าฟรี ก็บอกว่า ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นรองเท้ามีเจ้าของ เห็นคนโพสต์รองเท้าแจกฟรี ก็แห่มาเลือกเอา เห็นรองเท้ากองอยู่ข้างหนองมนมา 3-4 วันแล้ว เห็นชาวบ้านเยอะก็เลยมาเลือกกับเขาด้วย ถ้าเรารู้ว่ามีเจ้าของเราก็คงไม่มาเลือกเอา เห็นว่าเขาแจกฟรี ใจหนึ่งก็สงสารป้าแกอยู่ หากแกบอกว่าเอามาไว้เพื่อเอาไปขายต่อ แต่นี่เห็นชาวบ้านมาเลือกเยอะ ก็เลือกมาเลือกด้วย แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้วเมื่อป้าแกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ก็อยากฝากชาวบ้านที่เอารองเท้าป้าไปว่า ไผเอาของป้าไปก็เอามาคืนเด้อ ไผเอาไปคนละ 4-5 กระสอบ สงสารป้าแก

พ.ต.อ.อมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากกรณีรองเท้าแจกฟรีตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดวันนี้เจ้าของรองเท้าได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.กุดจับเพื่อแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรองเท้าจำนวนดังกล่าวแล้ว จากการสอบถามเจ้าของรองเท้าทราบว่าผู้เสียหายอยากจะดำเนินคดีกับคนที่โพสต์ข้อความ เนื่องจากผู้เสียหายเชื่อว่าคนที่โพสต์เป็นต้นเหตุทำให้รองเท้า ถูกชาวบ้านมาเอาไป หากไม่มีคนโพสต์รองเท้าอาจจะไม่ถูกชาวบ้านเอาไปหรือหายไม่มาก

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากรับแจ้งความสอบปากคำผู้เสียหายแล้วทางตำรวจจะได้เชิญคนโพสต์มาสอบถามสอบปากคำ ว่าการกระทำเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ซึ่งหากผิดตำรวจก็ดำเนินการไปตามขั้นตอน กรณีชาวบ้านที่ไปเอารองเท้าผู้เสียหายยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้ติดใจที่จะเอาเรื่อง เนื่องจากผู้เสียหายเชื่อว่าชาวบ้านเห็นโพสต์จึงเชื่อว่ารองเท้าเป็นของฟรีจึงเดินทางมาเอาตามโพสต์

กรณีดังกล่าวผู้เสียหายแม้จะไม่เอาผิดกับชาวบ้าน เมื่อดูเจตนาแล้วชาวบ้านก็ไม่ได้ตั้งใจจะขโมย แต่เห็นโพสต์จึงเดินทางมาเอา ส่วนกรณีสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวสารว่ารองเท้าแจกฟรีไปก่อนหน้านี้นั้น ต้องดูว่าข้อความที่สื่อมวลชนเขียนไปลงข่าวมีข้อความอย่างไรมีเจตนาอย่างไร จะเข้าข่ายมีความผิดร่วมด้วยหรือไม่ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งหากเข้าองค์ประกอบความผิดก็คงต้องว่าไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ฝากเป็นกรณีให้เคสตัวอย่างกับชาวบ้านว่าของฟรีไม่มีในโลกอะไรที่ไม่ใช่ของเราอย่าเพิ่งคิดว่าไม่มีเจ้าหรอก ขอให้บอกให้เตือนกันอะไรที่ไม่ใช่ของเราแม้จะเป็นของฟรีก็อย่าเพิ่งไปเอา ทั้งนี้หากเจอของที่ไม่ใช่ของเราและเป็นของผิดกฎหมายก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที