สาวสุดทน ร้องสายไหมต้องรอด หลัง ถูกอดีตพระวัดดังตามรังควาน ด่าทอเสียหาย แจ้งความ – ฟ้องศาล แต่ยังไม่หยุดตามรังควาน
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 น.ส.สุรัชรฐา เชียงยศ อายุ 30 ปี ผู้เสียหายถูกฝ่ายชายที่เคยคบหากันตามรังควานไม่เลิก นาน 7 ปี แจ้งความ-ฟ้องศาล ก็ยังสร้างเฟซบุ๊กใหม่มากว่า 20 บัญชีเพื่อคุกคามตัวเอง จึงมาร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือ
น.ส.สุรัชรฐา เล่าว่า ตั้งแต่อายุ 20 ปี ตัวเองเริ่มไปวัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน เพื่อปฏิบัติธรรมแต่ได้ไปเจอผู้ชายคนนี้เมื่อประมาณปีพ.ศ.2559 ซึ่งขณะนั้นยังเป็นพระอยู่ ขณะที่ตัวเองปฏิบัติธรรมอยู่พระก็เข้ามาพูดคุยด้วย หลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จอดีตพระก็ได้ไปขอเบอร์โทรศัพท์ตัวเองกับผู้ที่ไปปฏิบัติธรรมด้วยกัน และปีพ.ศ.2560 ได้มีการติดต่อมาพูดคุยหลังจากที่สึกออกมา เพื่อให้พาไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่และได้ข่มขืนตัวเอง หลังจากนั้นอีก 2 เดือนจึงได้เริ่มคบหาและไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลังจากคบหากันไม่นานฝ่ายชายก็อ้างชื่อตัวเองเพื่อไปกู้ยืมเงิน และไปอ้างกับคนอื่นบอกว่าตัวเองเป็นคนไปบอกให้พระสึก และข่มขู่ให้ตัวเองส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนไม่เช่นนั้นจะตามระราน
- โศกนาฏกรรม เพลิงไหม้รพ. ในอินเดีย คลอกเด็กแรกเกิด ดับสลด 10 ศพ
- มิตรภาพ! โทนี่ ฮิปโปแคระจากเยอรมัน ส่งจดหมาย-ของขวัญ ให้ หมูเด้ง
น.ส.สุรัชรฐา กล่าวว่า จากนั้นจึงได้ตัดสินใจฟ้อง 2 ศาล ทั้งแพ่งและอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, ละเมิด และเรียกค่าเสียหาย ซึ่งตัวเองชนะคดีทั้งหมด หลังจากเกิดเรื่องฝ่ายชายก็กลับไปบวชใหม่อีกหลายครั้ง จึงตัดสินใจแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพราะฝ่ายชายไม่ได้ชดใช้ค่าเสียหายตามที่ศาลสั่ง จึงโดนไล่ออกจากวัดและโดนสึก หลังโดนสึกเขาก็ยังตามระรานคุกคามตัวเองไม่เลิกนาน 7 ปี ตัวเองพยายามบล็อกช่องทางการติดต่อกับฝ่ายชายทุกช่องทาง แต่ฝ่ายชายก็สร้างเฟซบุ๊กใหม่มา 21 บัญชี เพื่อมาคุกคามตัวเอง จึงมาร้องกับสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือ
น.ส.สุรัชรฐา กล่าวว่า วันนี้ตัวเองยอมเปิดหน้าชนเพื่อต้องการไม่ให้ฝ่ายชายมาคุกคามตัวเอง ทั้งนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแม้จะเปลี่ยนเฟซบุ๊ก หรือเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แล้ว ฝ่ายชายก็ทราบช่องทางติดต่อของตัวเองตลอด
นายเอกภพ กล่าวว่า หลังจากนี้จะให้ทนายไปยื่นเรื่องต่อศาล เนื่องจากฝ่ายชายได้มีการละเมิดคำพิพากษาของศาล ซึ่งจะให้ศาลเป็นผู้พิจารณาในความผิดที่เกิดขึ้น ส่วนเงินที่ศาลสั่งให้ชดใช้ก็ต้องมาดำเนินการเพราะเป็นคดีความอาญาและการชดใช้เงินเป็นเหตุบรรเทาโทษ แต่สุดท้าย ทั้งนี้ฝากบอกฝ่ายชายให้หยุดพฤติกรรมคุกคามดังกล่าว เพราะเหตุการณ์ผ่านมาหลายปีแล้ว เมื่อมาคุกคามผู้เสียหายจะมีความผิดตามกฎหมาย
