แม่บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร. เสียชีวิต ขณะลงพื้นที่ปฏิบัติทำหน้าที่ตำรวจ เหตุ กราดยิงพารากอน เผยคำพูด ลูกต้องมาดูแลความปลอดภัยประชาชน
วันที่ 4 ตุลาคม 2566 มีรายงานเรื่องเศร้าจากผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Phuri Phatara เปิดเผย แม่บิ๊กต่อ หรือ พล.ต.อ.ต่อสักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสียชีวิตขณะ บิ๊กต่อลงปฏิบัติหน้าที่ กราดยิงพารากอน ว่า “วันนี้คุณหมอโทรบอกว่าแม่ใหญ่ความดันตก ท่านน่าจะจากลูกๆไปในเร็วๆนี้ ลูกรีบมารอแล้วกระซิบ ข้างหูว่า ลูกเป็น ผบ.ตร แล้วนะครับ ลูกอยู่ตรงนี้ลูกมาแล้ว ท่านลืมตาน้อยๆรับรู้ ท่านรอลูกคนนี้มาหาแต่มี เหตุการที่สยามพารากอน ลูกต้องมาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนระหว่างอยู่หน้างานได้รับข่าวว่าแม่หลับไปแบบสบายค่อยๆหมดลมหายใจไป”
แม่คงรู้ว่าลูกคนนี้ไปทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แม่หมดห่วงแล้วแม่ได้ไปอยู่บนฟ้ากับพ่อ ฝากบอกพ่อด้วยนะครับว่าน้องต่อเป็นผบ.ตร แล้ว พ่อคงดีใจ พ่อคงภูมิใจนะครับ หลับให้สบายนะครับแม่ 104 ปี บนโลกใบนี้แม่ใหญ่เป็นคนที่พาลูกเดินไปทำบุญที่วัดตั้งแต่เล็กแม่ใส่บาตรทุกเช้ากลัวพ่อบนฟ้าหิว รักแม่ใหญ่มากๆครับ เพราะแม่ใหญ่เป็นผู้ให้อนาคตลูกคนนี้ บุญคุณแม่ใหญ่มากมายยิ่งนัก น้องต่อตอบแทนแม่ใหญ่ไม่หมดครับแม่ครับ “ด้วยหน้าที่ตำรวจต้องมาทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยที่ไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ของลูกเป็นครั้งสุดท้าย”
ส่วนเรื่อง คดีกราดยิงพารากอน บิ๊กต่อ เปิดเผยเมื่อคืนว่า เรื่องสอบปากคำต้องขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ทั้งนี้ได้นำตัวไปยังสน.ปทุมวัน เพื่อสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุไม่ขอเปิดเผย ขณะเข้าจับกุมได้ดำเนินการตามขั้นตอน (SOP) โดยผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว จากการตรวจสอบ พบประวัติรักษาจิตเวชอยู่โรงพยาบาลราชวิถี เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากมีอาการเบลอ ระบุว่า มีคนมาพูดว่าต้องยิงคนนู้นคนนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดต่อผู้ปกครอง เนื่องจากไปตรวจสอบที่บ้านพักยังไม่เจอพ่อแม่ ส่วนเรื่องของเกมพบว่าได้เล่นเกมบ้าง ส่วนปืนผู้ก่อเหตุใช้เป็นอาวุธปืนแบลงค์กัน ยังไม่ทราบที่มา เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน 1 ราย เสียชีวิตบริเวณชั้น G ส่วนชาวเมียนมาร์ 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยอีกว่า จากการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง ทำให้พนักงานของห้างรู้ขั้นตอนว่าจะต้องไปหลบซ่อนตัวที่ไหน เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย และทางห้างได้มีการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำทุก 3 เดือน ทำให้ตำรวจสามารถเข้าช่วยเหลือและลำเลียงประชาชนอย่างมีขั้นตอน ขณะเดียวกันก็ต้องปิดล้อมพื้นที่เพื่อเข้าระงับเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าตำรวจสายตรวจถึงที่เกิดเหตุภายใน 5 นาที ซึ่งเป็นไปตามหลักยุทธวิธี นอกจากนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ดูแลมาตรการให้รัดกุม
จากการค้นบ้านเด็ก พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.หลักสอง เข้าตรวจค้นบ้านพัก ที่ถนนเพชรเกษม ซอย 88/1 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.ของผู้ต้องหา จนท.พบ ปืนบีบีกัน ล้อหุ่นสงคราม แบบ M4 , กระสุนปืน M16 , กระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืนขนาด 9 มม.เพิ่มเติมจำนวนมากในห้องนอนของผู้ก่อเหตุ รวมทั้งเป้ายิงปืน ซึ่งผ่านการใช้งานแล้ว อยู่ภายในบ้าน จากการสอบสวน ผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ ยังไม่ทราบว่า ของกลางทั้งหมด บุตรชายนำมาจากที่ใด เนื่องจากตามปกติ บุตรชายพักอาศัยหลับนอนอยู่ที่บ้านพักอีกแห่งหนึ่งย่านสาทร หลังจากนี้ชุดตรวจค้นจะนำของการทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ทำบันทึกการตรวจยึดเอาไว้ก่อนประสานพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ สำนักข่าวไบรท์ทูเดย์ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการ กราดยิงที่พารากอน และ ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียมารดาของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ในที่นี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูล : Phuri Phatara
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
