อึ้งอะไรก่อนดี! แม่วัย 66 ปี เมาหนัก จับหัวลูกวัย 50 ปี โขกกับพื้นจนตาย ลั่น ก็ลูกพูดมาก ชอบด่า ซ้ำขู่จะเผากระท่อม ชาวบ้านเผยทะเลาะกันประจำ
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมศักดิ์ ขอเทียม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมารดาทำร้ายร่างกายลูกสาวเสียชีวิต ที่บ้านแห่งหนึ่งในซอยสามัคคี ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 แพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก สมาคมกู้ภัยข่าวพิษณุโลก
เบื้องต้นในที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุคือ นางน้อย อายุ 66 ปี หรือ ยายแม็ด อยู่รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีญาติๆ ซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงกันรออยู่ด้วย ส่วนศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านของผู้ตาย ทราบชื่อคือ นางนิตยา อายุ 50 ปี หรือนางอู๊ด เป็นลูกสาวคนโตของยายแม็ด สวมเสื้อลายสีแดง กางเกงขายาวสีดำ นอนตะแคงเสียชีวิตอยู่บริเวณพื้นใกล้โต๊ะอาหาร เลือดออกบริเวณศีรษะ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ส่วนยายแม็ดนั้นพักอาศัยอยู่ในเพิงหลังบ้านของลูกสาว
โดยยายแม็ด รับสภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางนิตยา สุดแก้ว อายุ 51 ปี หรือลูกสาวเสียชีวิต โดยเมื่อเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. นางนิตยา ผู้เสียชีวิต ได้ให้ตนเองออกไปซื้อเหล้า น้ำแข็ง มาดื่มภายในบ้าน นั่งดื่มเหล้ากัน 2 คน
จนถึงเวลา 09.00 น. นางนิตยา ได้มีปากเสียงกับน้องเขย และได้ลุกลามมามีปากเสียงกับตนเองในเรื่องกระต๊อบหลังบ้าน ว่าจะรื้อกระต๊อบ จะเผากระต๊อบที่ตนเองอาศัยนอนหลับทุกคืน และได้พลั้งมือทำร้ายร่างกายโดยนั่งค่อมร่างนางนิตยา แล้วจับศีรษะโขกกับพื้นหลายครั้ง นับจำนวนไม่ได้ นอนนิ่งอยู่กับพื้น ตนเองจึงได้ออกไปข้างนอก โดยไม่ได้สังเกตว่าเสียชีวิตหรือไม่
ยายแม็ดยังเล่าอีกว่า ตอนนี้นึกไม่ออกบอกไม่ถูก แต่จำได้ว่าลูกให้ไปซื้อเหล้ามากินกัน 30 บาท แล้วก็มานั่งกินกันแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น แต่ลูกพูดมาก ชอบด่า การก่อเหตุในครั้งนี้ไม่ได้ใช้มีดหรืออาวุธ ใช้แต่มืออย่างเดียว จับหัวลูกโขกกับพื้น
ด้านนางสาวจิรวรรณ เชยอรุณ ผู้ใหญ่หมู่ 9 ตำบลอรัญญิก กล่าวว่า เมื่อเวลา 17:00 น. นางน้อย อินงาม อายุ 65 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินมาแจ้งว่านางนิตยา นอนแน่นิ่งมีคราบเลือดอยู่บนพื้นจำนวนมาก ตนเองจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พบว่านางนิตยา ได้เสียชีวิตแล้ว
นางสาวจิรวรรณ กล่าวต่อว่า แม่ลูกคู่นี้กินเหล้าด้วยกัน ทะเลาะด้วยกันเป็นประจำ และแจ้งตำรวจพื้นที่มาระงับเหตุตลอดทุกวัน และมาวันนี้จึงได้สอบถามลูกบ้านใกล้บ้านที่เกิดเหตุ ก็พบว่า เมื่อเวลา 09.00 น. มีการทำร้ายกัน มีปากเสียงกันภายในบ้าน โดยพบเห็นเพียงนางน้อย ออกมาจากบ้านเพียงแค่คนเดียว โดยไม่เห็นนางนิตยา ออกมาด้านนอกอีกเลย
ด้านนายสมศักดิ์ ธรรมสารี อายุ 71 ปี สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เมื่อเวลา 10.00 น. นางนิตยา ได้โทรศัพท์ไปหาตนเอง และบอกว่าช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้หน่อย เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายอยู่ในบ้าน แต่ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนทำ ตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากมีปากเสียงกันประจำอยู่แล้ว จึงกลับมาบ้านตอนเวลา 17.00 น. และก้มมองผ่านประตูเห็นนางนิตยา และได้ตะโกนเรียกหลายครั้งไม่มีเสียงตอบรับจึงได้บอกให้นางน้อย ผู้ก่อเหตุ ไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านเพื่อมาดูที่เกิดเหตุ จึงรู้ว่านางนิตยา เสียชีวิตไปแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวนางน้อย ผู้ก่อเหตุ ไป สภ.เมืองพิษณุโลก เพื่อควบคุมตัวตรวจร่างกาย และสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก นำร่างผู้เสียชีวิตชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก ก่อนมอบร่างให้ญาติผู้เสียชีวิตนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป