ส่งตัวเข้าเรือนจำ! ไอ้โน๊ต มือฆ่ายกครัว 3 พ่อแม่ลูก ล่าสุด ศาลค้านประกันตัว เจ้าตัว ลั่น ขอโทษก็ได้ อยากขอโทษครอบครัวผู้ตายก็สายไปแล้ว
สืบเนื่องจากกรณี พบศพพ่อแม่ลูกสามราย ถูกฆาตกรรมแล้วอำพรางภายในรถกระบะซึ่งจอดอยู่ในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังจากที่ครอบครัวนี้ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา โดยความคืบหน้าของคดี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยสำคัญมาสอบสวนอย่างเข้มข้น เพื่อหามูลเหตุจูงใจในการสังหารโหดครั้งนี้ โดยพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นบุคคลใกล้ชิดกับครอบครัวผู้เสียชีวิต
และต่อมาศาลฯ ได้ออกหมายจับ นายศิวกร และนายนิรุธ ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ชิงทรัพย์, และซ่อนเร้นอำพรางศพ หลังจากนี้ตำรวจเตรียมนำตัวนายศิวกรและนายนิรุธ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป
ล่าสุด วันนี้ 17 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรคลองขลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมนายศิวกร อ่อนเกตุ หรือ โน้ตอายุ 27 ปี และนายนิรุตย์ สีบุญมี หรือเข้ อายุ 25 ปี ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร หลังจากควบคุมตัว และมีการสอบสวนครบ 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และเป็นคดีสะเทือนขวัญและมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม

- ศาลออกหมายจับ 2 ผู้ต้องสงสัย ฆาตกรรม 3 พ่อแม่ลูก โดน 3 ข้อหาหนัก
- จับพิรุธต่อ! ‘โน๊ต’ มือฆ่า 3 พ่อแม่ลูก เนียนตีสนิทนักข่าว หวังเบี่ยงประเด็น
- คนใกล้ชิดเปิดปากสารภาพ ยิง 3 พ่อแม่ลูกดับ พร้อมเผยปมเหตุสังหาร
ทั้งนี้ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายไปฝากขังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแพทย์เข้ามาตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยนายโน๊ต นั่งคู่กับภรรยาที่เข้ามาเป็นพยานและร่วมสอบปากคำเพิ่มเติมทั้งคู่นั้นอยู่ในอาการเครียดตลอดเวลา
แต่เมื่อเข้าไปภายในรถควบคุมตัวผู้ต้องขังนายโน๊ตกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ผมขอโทษทุกคนก็ได้ครับพี่ ผมอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆทุกอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วไม่เสียใจที่ญาติไม่มาประกันตัว ผมสมควรโดนแล้วครับผมขอรับผิดคนเดียวขอโทษเข้ตั้งแต่ในห้องขังแล้วที่ต้องพาน้องมาผิดด้วยส่วนเรื่องลักทรัพย์ในบ้านนายใหม่ ตำรวจนำตัวตนมาพิมพ์ลายนิ้วมือคนเดียวคนในบ้านเขาก็ไม่มีใครเชิญตัวมา”
“นักข่าวตีข่าวมาที่ผมคนเดียวได้เลยครับคนอื่นไม่ได้รู้เรื่องอยากขอโทษครอบครัวเขา แต่ขอโทษไปก็สายแล้วครับ” นายโน๊ตกล่าว ขณะที่นายนัสเองยังคงมีท่าทีอิดโรยนั่งคอตกสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ยอมพูดจาอะไรออกมา