พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อระบุว่า “คนเล่นเกมส์อาจขึ้นสวรรค์ คนฟังธรรมอาจตกนรก”
ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับการฝึกฝนและพัฒนาตนเองนะ ที่สำคัญข้อปฎิบัติในการเข้าถึงธรรมะนั้น ก็มีหลายระดับ ธรรมะของฆราวาสที่ครองเรือนก็มีข้อปฎิบัติอย่างหนึ่ง ธรรมะของผู้ออกบวชก็มีข้อปฎิบัติอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ ก็เถียงกันตายเลย ดูหมิ่นกันตายเลย
พระมหาไพรวัลย์ ตอบแล้ว! ฆ่าในเกมส์ เป็นบาปหรือไม่ ?
เช่น บุคคลที่อยู่ครองเรือนเป็นฆราวาส แม้จะเพลิดเพลินยินดี ยังเสพกามคุณ ๕ เสพสิ่งบันเทิงต่างๆ อาจดูมหรสพ ดูทีวี เล่นเกมส์ แข่งกีฬา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเป็นคนชั่วร้ายนะ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเป็นคนบาป ไม่ได้หมายความว่าเขาจะบำเพ็ญหรือดำรงตนอยู่ในหลักของบุญกิริยาวัตถุข้ออื่นๆ ไม่ได้
ตามหลักศาสนา มนุษย์ปุถุชชนทุกคนไม่ว่าจะอยู่ในสถานะภาพไหน (เป็นพระหรือชาวบ้าน) ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์พร้อมทั้งทางกาย วาจา หรือทางใจ ตลอดเวลาหรอก ดีร้ายก็ต้องเผลอในทางที่จะคิดผิดพูดผิดหรือทำผิดไปบ้าง นี่เป็นเรื่องธรรมดา (เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นพระอรหันต์ซึ่งมีสติสมบูรณ์อยู่ในทุกขณะ)
หลวงตาบุญชื่น ออกเดินธุดงค์เท้าเปล่าพันกว่ากิโล รับแต่น้ำ ไม่รับปัจจัย-สิ่งของ
ฉะนั้น ธรรมะ จึงไม่ใช่ของที่มีไว้เพื่อการตีตรานะ แต่ธรรมะมีไว้เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตน มันอย่างเดียวกันเลย ถ้าเราไม่สามารถไปตัดสินคนตกปลาว่าเป็นคนบาปได้ เราก็ไม่สามารถไปตัดสินคนเล่มเกมส์เช่นนั้นได้เหมือนกัน
สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ ความสะอาดหรือความไม่สะอาด (ของจิตใจ) เป็นเรื่องที่รู้ได้เฉพาะตน วินาทีนี้เราอาจจะมีจิตใจเป็นเทวดาอยู่ แต่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เราอาจจะกลายเป็นยักษ์เป็นมารก็ได้นะ วันนี้ถึงเราไม่นั่งเล่นเกมส์ยิงปืน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่สั่งสมอกุศลมูลในทางอื่นๆ ในกิจกรรมอื่นๆ จากการใช้ชีวิตประจำวัน
เจ้าคุณมีชัย คือใคร ทำไมมีลูกศิษย์ชื่อ ประยุทธ์ – พระอุปัชฌาย์ บิ๊กแดง
การนึกถึงธรรมะเป็นเรื่องที่ดีมากๆนะ แต่ถ้าจะใช้ธรรมะนั้นในการมองคนอื่น เราควรจะต้องฝึกการเมตตาธรรมให้มากๆ ที่สำคัญเราจะต้องไม่เผลอไปคิดหรือมองอะไรแบบเหมารวมเด็ดขาด คนสองคนทำสิ่งเดียวกัน แต่ทำด้วยคนละความคิดและดวงจิตคนละอย่าง ผลย่อมออกมาแตกต่างกัน นี่ตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีเดียว