กรณี ดารุมะ ซูชิ ชาวเน็ตตั้งกระทู้ Pantip วิเคราะห์ความเติบโตของธุรกิจ ดารุมะ ลั่น คิดว่าไม่ตั้งใจโกงแต่สถานการณ์พาไป
จากกรณีดราม่าร้านบุฟเฟต์เจ้าดัง ดารุมะ ซูชิ เมื่อวันที่ (18 มิ.ย. 65) ที่จู่ๆปิดร้านเงียบหายหาย ซึ่งจากเหตุการณ์
ดารุมะ ซูชิ ปิดร้านเงียบนั้น ก็ได้มีผู้บริโภคเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ทางร้าน ดารุมะ ซูชิ ได้ทำการเปิดขาย Voucher หรือ คูปอง ในราคา 199 บาท โดยบางคนซื้อมาเก็บไว้เผื่อใช้ในโอกาสที่ต้องการแต่ตอนนี้ทำเอาลุ้นตัวโกงว่าจะมีโอกาสได้ใช้หรือไม่ และตอนนี้เจ้าของร้านอย่าง คุณเมธา ชลิงสุข ก็ยังไม่ปรากฏตัวหรือเคลื่อนไหวใดๆ
นอกจากผู้เสียหายที่ซื้อ Voucher แล้วก็ยังมีลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ของ ดารุมะ ซูชิ และพนักงานที่ถูกปิดร้านโดยไม่ทันตั้งตัวส่งผลให้กลายเป็นคนว่างงานกระทันหัน ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษณ์วิจารณ์มากมายในหลายๆแง่ๆมุม
ล่าสุด ชาว Pantip ก็ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อวิเคราะห์ความเป็นไปเป็นมาของธุรกิจนี้ ว่าตั้งแต่มี ดารุมะ ซูชิ มานั้นความเติบโต ของธุรกิจและระยะเวลาการเปิดมีมานานเท่าไหร่แล้ว โดยระบุข้อความว่า
เอาจริงๆ ผมเชื่อว่า Daruma Sushi ไม่ได้ตั้งใจโกง แต่สถานการณ์พาไป
เหตุการณ์ ดารุมะ ซูชิ ทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง และมีผู้เสียหายจำนวนมาก
ทั้งผู้บริโภค พนักงาน ซัพพลายเออร์ ผู้ซื้อแฟรนไชส์
แต่ดูจากสภาพการณ์แล้ว มีหลายจุดที่ทำให้เชื่อว่าเจ้าของ (คุณเมธา ชลิงสุข) คงไม่ได้ตั้งใจฉ้อโกงประชาชนแต่แรก แต่เป็นเพราะสถานการณ์บีบคั้น ปัญหารุมเร้าจนหาทางออกไม่ได้ เค้าจึงตัดสินใจหนี
- บจ. ดารุมะ ซูชิ เปิดมาตั้งแต่ต้นปี 2559 รวมเป็น 6 ปีกว่าแล้วถ้าตั้งใจโกง คงไม่มีใครวางแผนสั่งสมชื่อเสียงมายาวนานขนาดนี้ จนแทบจะผ่านพ้นโควิดอยู่แล้ว
- เจ้าของพยายามขยายกิจการ ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีจาก 38 ล้าน เป็น 43 ล้าน และ 45 ล้านบาท ในปี 2564
มีทั้งขายแฟรนชายส์ เพื่อให้เกิด economy of scale เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มอำนาจต่อรองในการซื้อวัตถุดิบ
แถมจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคอีกด้วย
- จากคำบอกเล่าของผู้จัดการร้าน เจ้าของเป็นเจ้านายที่ดูแลลูกน้องดีพยายามต่อสู้ ให้ร้านผ่านพ้นวิกฤตโควิด
- เมื่อเดือน พ.ค. 2565 เจ้าของ (คุณเมธา ชลิงสุข) จัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ บจ. ดารุมะ ซูชิ โก เพื่อต่อยอดธุรกิจ โดยจะขายแบบเดลิเวอรี่ ถ้าตั้งใจจะโกง คงไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนี้
- เจ้าของพลาดไป โดยการออก voucher จำนวนมาก ในราคาถูกอย่างเหลือเชื่อน่าจะเพื่อให้เกิดกระแสเงินสด และมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ให้ธุรกิจไปต่อได้แต่พอเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาปลาแซลมอลพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าจะทำอย่างไรกับ voucher ที่ออกไปแล้วหลายพันใบ ในราคา 199 บาท ? ยิ่งทำต่อมีแต่จะขาดทุน มันเป็นเหตุการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มาถึงจุดนี้ หนี้สินพอกพูนราวกับระเบิดเวลา เงินก็ร่อยหรอ ไม่ช้าก็เร็ว ก็จะไม่สามารถชำระหนี้อีกต่อไป จนซัพพลายเออร์ยื่นคำขาดไม่ยอมส่งของ ถ้าไม่จ่ายตัง ถ้าตั้งใจจะโกงแต่แรก เจ้าของคงไม่รอถึงวินาทีสุดท้าย คงหนีไปนานแล้ว
เจ้าของทำถูกมั้ย ที่หนี? ไม่ว่ามองยังไง ก็เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง น่าเห็นใจผู้เสียหายทุกคนครับ พวกเราเพียงได้แค่ทำความเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ที่พาให้ไปถึงจุดนั้น ก็เท่านั้น ผมเชื่อนะครับว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แม้แต่ตัวเจ้าของเอง
อ่านข่าวที่น่าสนใจ
