พ่อแม่เด็กเจรจากับเจ้าของหมาพิทบลูกัดเด็ก ทำบันทึกข้อตกลงให้ทำกรง 2 ชั้น ขณะเจ้าของหมาขอเลี้ยงต่อ รับผิดชอบทั้งหมด
จากกรณีเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุเด็กนักเรียนชั้นป.2 อายุ 8 ปี ถูกสุนัขพิทบูลเข้าไปกัดถึงในบ้าน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดบริเวณห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานรถกู้ชีพนำตัวส่งห้องไอซียู โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ต่อมาทางทีมแพทย์ได้ย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บส่งต่อไปที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อทำการผ่าตัดหู และแก้วหู เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุพบว่าทาง น.ส.ดา (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 23 ปี เจ้าของสุนัขพิทบูล ได้ขอไกล่เกลี่ยกับ นายเอกชัย อายุ 37 ปี พ่อเด็ก โดยมีทาง นพ.สพ.พีรชา ญัติติพร นายสัตว์แพทย์ชำนาญการกองสาธารณสุขเทศบาลนครปากเกร็ด เป็นคนกลางโดยได้ข้อสรุปว่า โดยทางพ่อเด็กไม่อยากให้เลี้ยงสุนัขพิทบูลต่อ เนื่องจากบริเวณนี้มีเด็กเยอะ ถ้ามีการกัดเด็กได้รอบแรกเดี๋ยวต้องมีรอบ 2 อยากให้ย้ายหมาออกไป

น.ส.สมจิตร อายุ 63 ปี คุณยายน้องเอ (นามสมมุต) คนโดนกัด กล่าวว่า ตรงนี้อยู่ใกล้โรงเรียน ทางโรงเรียนกับเด็กนักเรียนหวาดกลัวมากกลัว หมาพิทบูล จะไปกัดเด็กนักเรียน แต่ถ้าหากจะเลี้ยงควรจะป้องกัน ให้รัดกุม และป้องกันให้มากกว่านี้ ตนเข้าใจว่าเป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านตนก็เลี้ยงแมวรักเหมือนลูกเหมือนหลาน จะให้ไปฆ่าหมาทิ้งตนก็ทำใจไม่ได้ เขาก็มีชีวิต

นพ.สพ.พีรชา ญัติติพร นายสัตว์แพทย์ชำนาญการกองสาธารณสุขเทศบาลนครปากเกร็ด กล่าวว่า เบื้องต้นต้องขังหมาไว้ 15 วัน ดูอาการว่ามีพิษสุนัขบ้าหรือไม่ และให้เลี้ยงในที่ของตนเอง ไม่ปล่อยให้ออกไปนอกสถานที่เลี้ยง พร้อมจัดหากรงที่มั่นคงแข็งแรง ไม่ให้หลุดออกมาได้ และให้ติดป้ายสุนัขดุ อาจจะต้องทำประตู 2 ชั้น เพิ่มเข้ามา และต้องฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี ทำหมันเพื่อลดความดุร้าย ส่วนแผลที่หัวสุนัขที่โดนครกตีเดี๋ยวจะมีการวางยาเพื่อทำหมัน และทำแผลไปด้วย ป้องกันแผลติดเชื้อ

น.ส.ดา (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) อายุ 23 ปี เจ้าของสุนัข กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีลุงมาเปิดประตู ทำให้หมาของตนเดินไปเดินมา ตนไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเข้าไปกัดเด็กในบ้านมีเด็กเดินไปเดินมาไม่เห็นหมาทำอะไร หลังตนรู้เรื่องตนรีบวิ่งเข้าไปบ้านน้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นกู้ภัยมาพอดี ตนขึ้นรถไปกับกู้ภัย รออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน จนน้องย้ายไปโรงบาลศิริราช บอกว่าไปเยี่ยมไม่ได้แล้วเนื่องจากเป็นเวลาตี 1 ตนเลยแยกย้าย ตนยอมรับผิดชอบ บอกญาติของน้องว่ามีอะไรให้โทรมา ตนพร้อมที่จะคุย อะไรช่วยได้ตนพร้อมที่จะช่วยตามความเหมาะสม

วันนี้เทศบาลจะมารับหมาไป แต่ตนขอโอกาสแก้ไข ตนเลี้ยงหมามาตั้งแต่เกิดมาได้ 7 วันตอนนี้ 7 ปีแล้ว ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ ตนเลี้ยงมาตนก็รัก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนเสียใจที่ไม่ได้เป็นคนปล่อยหมาออกมาแล้วไปกัดเด็ก เป็นคนอื่นที่ปล่อยหมาออกมาแล้วไปกัดเด็ก หมาไม่เจอเจ้าของมันอาจจะตกใจ แต่เรื่องเกิดแล้วตนต้องยอมรับ ตอนนี้มีการไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน ทนตนทำตามคำแนะนำ เพราะอยากให้น้องอยู่กับตน ยืนยันว่าอยากจะเลี้ยงน้องหมาต่อ ปกติไม่เคยปล่อยไปไกลใครถ้าจะให้วิ่งเล่นก็จะไม่ให้ใครเข้ามาในบ้านมีตนกับแฟน 2 คน มีการเขียนป้ายไว้ว่าห้ามเข้าสุนัขดุ ตนเสียใจมากลูกใครใครก็รัก ตนขอโทษทุกครั้งที่เจอหน้าพ่อแม่เด็ก ตนไม่รู้จักทั้ง 2 คน แต่แฟนของตนรู้จักกับพ่อเด็ก

น.ส.ปรียา อายุ 34 ปี แม่ของน้องเอ กล่าวว่า เมื่อคืนคุณยายโทรมาบอกว่าน้องเอ โดนหมากัด มาเห็นน้องกำลังจะขึ้นรถฉุกเฉินไปโรงพยาบาล แม่กับเจ้าของหมาขึ้นรถไปด้วย ตนเห็นแล้วใจสลาย สงสารลูกมาก ทางพยาบาลเปิดแผลมาตนไม่กล้าดู ลูกมีแผลที่หลังศีรษะ แผลเปิดบริเวณใบหู ส่วนแก้วหูต้องรอหมอมาดู ตนไม่เคยได้ยินเสียงหมาพิทบูลเห่า ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมถึงเข้ามากัดน้องถึงในบ้าน ได้พูดคุยกับทางเจ้าของหมาบอกว่าจะรับผิดชอบ ตอนนี้ตนยังไม่อยากเจรจาอะไร กลัวเรื่องจิตใจน้องมากว่าจะหวาดกลัวไหม ตรงนี้เป็นชุมชนมีคนเยอะและมีเด็กมาก ถ้าอยากจะเลี้ยงหรือรักหมาก็ต้องจัดการให้ดีดีกว่านี้ไม่ให้ออกมากัดใครอีก
เบื้องต้น ทางแม่เด็กได้เตรียมเดินทางไปแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด และจะไปเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาลศิริราช