สืบนครบาล ซ้อนแผนปลอมเป็นนร. บุกรวบ ‘ตั้มสถาปนิก’ นักไถตังค์ ก่อเหตุกรรโชกทรัพย์นักเรียน-นักศึกษา กว่า 200 ราย อ้างให้โดยเสน่หา
“โดนสักที” ตั้มสถาปนิก นักไถตังค์ แผนประทุษกรรมสุดเกรียน เน้นไถเด็กนักเรียน นักศึกษาทำทีพูดคุยอ้างรถล้มพึ่งออกโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์แต่โทรหาใครก็ไม่ติด ก่อนเชือดด้วยการกรรโชกทรัพย์หลักร้อยหลักพัน โดยทำท่าทีมือล้วงกระเป๋า หวังให้เหยื่อกลัวว่าเป็นอาวุธ พบประวัติก่อเหตุมา “นับครั้งไม่ถ้วน..ทั่วประเทศไทย” แม้บนรถไฟก็ยังไถ ล่าสุด..ไถตังค์เด็กนักเรียน 800 บาท แถวบริเวณกองกำกับการสืบนครบาล เจอชุดสืบบุกล่าเกรียนก่อนรวบริมถนนย่านจตุจักร อ้างไม่ได้กรรโชก แต่เป็นการขอเงิน
เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 20.40 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. , ร.ต.ท.อนันตชัย สัจจพงษ์ รอง สว.ฝอ.2 บก.อก.สทส. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว
นายธรรมศักดิ์ หรือ “ตั้มสถาปนิก” อายุ 39 ปี ภูมิลำเนา ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ดังนี้
- หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1741/2567 ลงวันที่ 27 ธ.ค. 67 ข้อหา “กรรโชกทรัพย์”
- หมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ จ.309/2565 ลงวันที่ 7 ต.ค. 65 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์ของผู้อื่น”
โดยจับกุมตัวได้ที่ ถ.พหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร จ.กรุงเทพฯ

พบประวัติก่อเหตุมานับไม่ถ้วน ซึ่งสำรวจพบดังนี้
- วันที่ 2 ก.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกงทรัพย์” นักเรียน โดยคนร้ายทำทีมาขอยืมโทรศัพท์จากนักศึกษาหญิง อ้างว่าแฟนสาวพาลูกขับรถหนีไป แต่เมื่อนักศึกษาให้ยืมโทรศัพท์ อ้างไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นอ้างต่อว่ารถน้ำมันหมดได้เงินจากนักศึกษาไปจำนวน 400 บาท เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
- วันที่ 3 พ.ย. 65 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าเกือบถูกคนร้ายรายนี้หลอกเอาเงิน โดยคนร้ายมาทำทีขอยืมโทรศัพท์โทรหาญาติที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ ก่อนจะไถเงินค่ารถไฟกลับบ้านจำนวน 300 บาท เหตุเกิดที่ รพ.ชื่อดัง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- วันที่ 9 เม.ย. 66 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยคนร้ายได้แฝงตัวเข้าไปในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาหญิง แล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ เหตุเกิดพื้นที่ รพ.ชื่อดัง ใน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
- วันที่ 29 ธ.ค. 66 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษาหญิง โดยอ้างว่าเป็นสถาปนิก จากนั้นได้เปิดผ้าพันแผลอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้ม ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ภูพิงค์ จ.เชียงใหม่
- วันที่ 22 พ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์นักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าคนร้ายตระเวนก่อเหตุอยู่ละแวกบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ
- วันที่ 24 ก.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์ชาวบ้าน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าคนร้ายทำทีเข้ามาถามทางไป บขส. โดยอ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล เหตุเกิดที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
- วันที่ 29 ก.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังค์ชาวบ้านโดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าได้เจอคนร้ายรายนี้มาไถเงิน เหตุเกิดใน จ.สุราษฎร์ธานี
- วันที่ 6 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าถูกคนร้ายก่อเหตุที่ โลตัส อ่อนนุช จ.กรุงเทพฯ
- วันที่ 7 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักศึกษา ระหว่างที่ผู้เสียหายเดินอยู่บริเวรร้านเกมส์คนร้ายได้เข้ามาทำทีน่าสงสาร ก่อนหลอกลวงว่าตนเองเป็นสถาปนิก ช่วยออกแบบสตาร์บัค บ้านอยู่บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติแล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับ ได้เงินจากผู้เสียหายไป 10,000บาท เหตุเกิดที่ อ.เมือง ลพบุรี
- วันที่ 16 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายแจ้งเบาะแสทางโลกโซเชียล ว่าได้เจอคนร้ายที่ละแวก ม.รังสิต ทำทีเข้ามาขอความช่วยเหลือ อ้างว่าตนเองเป็นสถาปนิก ช่วยออกแบบสตาร์บัค บ้านอยู่บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุรถล้มแล้วพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติแล้วโทรติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับ ได้เงินจากผู้เสียหายไป 200 บาท เหตุเกิดที่ ม.รังสิต จ.ปทุมธานี
- วันที่ 29 พ.ย. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยผู้เสียหายปั่นจักรยานกลับบ้านหลังเล่นบาส ผู้ต้องหาได้เข้ามาทำท่าทีน่าสงสาร และเข้ามาขอเงินเพื่อจะเดินทางกลับบ้าน เพราะรักษาพยาบาลหมดไม่เหลือเงิน ด้วยท่าทางน่ากลัว แล้วคิดว่าไม่ปลอดภัย จึงได้ให้เงินไปจำนวน 2,500 บาท เพื่อจะได้ไม่เกิดอันตราย เหตุเกิดที่ จ.เพชรบุรี
- วันที่ 23 ธ.ค. 67 เวลา 08.00 น. ก่อเหตุ “กรรโชกทรัพย์” ไถตังนักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบังจ.กรุงเทพฯ จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้าไปหานักเรียนชายอายุ 16 ปี ทำทีชวนคุยก่อน “ขอเงินกลับบ้าน” โดยคนร้ายใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายตลอดเวลาทำให้นักเรียนกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ จึงยอมมอบเงินให้กับคนร้ายจำนวน 1,000 บาท เหตุเกิดพื้นที่ สน.จรเข้น้อย
- วันที่ 23 ธ.ค. 67 เวลา 20.30 น. ก่อเหตุ “กรรโชกทรัพย์” ไถตังนักเรียน โดยการแฝงตัวเข้าไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปหานักศึกษาชาย ทำทีชวนคุยก่อน “ขอเงินไป บขส.” โดยคนร้ายใช้มือล้วงเข้าไปในกระเป๋าสะพายตลอดเวลาทำให้นักเรียนกลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธ จึงยอมมอบเงินให้กับคนร้าย เหตุเกิดพื้นที่ สน.จรเข้น้อย
- วันที่ 26 ธ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถตังนักเรียน โดยขณะที่กำลังนั่งรถไฟ ได้เข้าไปพูดคุยกับนักเรียนชาย จากนั้นได้ทำทีขอโทรศัพท์ ติดต่อ 3 เบอร์ ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับทำให้ได้เงินจากนักเรียนชายไปจำนวน 200 บาท เหตุเกิดระหว่างเดินทางบนรถไฟ
- วันที่ 29 ธ.ค. 67 ก่อเหตุ ไถเงินครูสาว โดยระหว่างที่ผู้เสียหายลงจากรถไฟ คนร้ายได้เข้ามาพูดคุยทำทีน่าสงสาร อ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้ม ไม่สามารถติดต่อญาติได้ ผู้เสียหายเป็นคนใจบุญจึงให้เงินไป 1,000 บาท แต่ผู้เสียหายขอเพิ่มเป็น 2,000 บาท เหตุเกิดที่ สถานีรถไฟ จ.ปราจีนบุรี
- วันที่ 2 ม.ค. 67 (วันนี้ที่จับกุม) ก่อเหตุ ไถเงินนักเรียน ขณะที่ผู้เสียหายจอดรถติดไฟแดงบริเวณถนนพญาไท ใกล้ๆกับสืบนครบาล คนร้ายได้เดินมาทำทีน่าสงสารชวนพูดคุย อ้างว่าประสบอุบัติเหตุรถล้มพึ่งออกจากโรงพยาบาล ติดต่อญาติที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ได้ ขอยืมโทรศัพท์ผู้เสียหายติดต่อญาติแต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ จากนั้นได้ขอเงินกึ่งบังคับจากผู้เสียหายไปจำนวน 800 บาท เหตุเกิดท้องที่ สน.พญาไท

พฤติการณ์กล่าวคือ “ใครเคยโดนโปรดแจ้ง” ตั้มสถาปนิก โคตรเกรียน “นักไถตัง” ที่ตระเวนก่อเหตุมานับไม่ถ้วนทั่วไทย แผนประทุษกรรม จะเน้นพุ่งเป้าไปที่กลุ่มเยาวชนโดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา ก่อนเข้าไปพูดคุยทำทีว่าตนเองเป็นสถาปนิก ออกแบบร้านกาแฟชื่อดังประสบอุบัติเหตุรถล้มพึ่งออกจากโรงพยาบาล ขอยืมโทรศัพท์ติดต่อญาติที่ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเหยื่อให้ยืมโทรศัพท์คนร้ายจะทำทีโทรศัพท์แต่ก็ติดต่อใครไม่ได้ จากนั้นจะทำทีให้แอดไลน์ ให้ดูบัตรประชาชน ยืนยันว่าตนไม่ใช่ขอทาน ไม่ใช่คนบ้า ก่อนจะเชือดด้วยการ “ขอเงินกึ่งบังคับ” จากเหยื่อ โดยจะขอในจำนวนไม่มาก หลักร้อยถึงพันบาท จนเหยื่อหลายคนให้เงิน โดยล่าสุดไปแฝงตัวเข้าไปตระเวนก่อเหตุในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านลาดกระบัง มีการพัฒนารูปแบบการเชือดด้วยการทำทีนำมือล้วงเข้าไปในกระเป๋าตลอดเวลา เพื่อให้เหยื่อกลัวว่าเป็นอาวุธ จนมีเหยื่อนักเรียนโดนกันไปติดๆ 3 ราย ในวันเดียวกัน จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.จรเข้น้อย ได้แจ้งเบาะแสมาที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทำการตรวจสอบก็ต้องพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยพบข้อมูลจากเหยื่อว่าคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้มาตั้งแต่ห้วงปี 2565 ถึงปัจจุบัน และพบข้อมูลในโลกโซเชียลก็พบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ด้วยมูลค่าความเสียหายไม่มากส่วนใหญ่ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้
ชุดสืบนครบาล และ สน.จรเข้น้อย ร่วมกันสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งได้ออกหมายจับคนร้ายรายนี้คือ นายธรรมศักดิ์ ยุคตะวัน หรือตั้มหนุ่มวัย 39 ชาวบุรีรัมย์ แต่การติดตามจับกุมนั้นไม่ง่ายเพราะคนร้ายตระเวน “ร่อนเร่” เดินสายไถตังไปทั่วไทย มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง งมเข็มในห้วงปีใหม่อยู่หลายวัน กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสจากเด็กนักเรียนรายหนึ่งซึ่งถูกคนร้ายไถเงินไป 200 บาท ขณะที่นั่งรถไฟเดินทางไปในพื้นที่ภาคตะวันออก พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะแกะรอยเท้าคนร้ายอยู่ 5 วัน พบคนร้ายกลับเข้ามาในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ และหายไปในมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง ชุดสืบสวนแฝงตัวเป็นนักศึกษาตระเวนหาคนร้าย ล่าสุดสืบทราบว่าคนร้ายมาเยือนถึงถิ่นสืบนครบาล มาไถเงินเหยื่ออีก 1 ราย บริเวณถนนหน้า บก.สส.บช.น. ชุดสืบสวนติดตามไปพบชายต้องสงสัยนอนอยู่ริมข้างทางใกล้กับสวนจตุจักร แต่ด้วยสภาพคนร้ายไม่เหมือนในภาพที่ชุดสืบสวนมีข้อมูล ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบด้วยกรรมวิธีซ้อนแผนสุดเกรียนโดยผู้กองฟิลม์และหมวดป็อป ปลอมตัวเป็นนักศึกษาเมื่อหันหน้ามาจึงมั่นใจว่าเป็นคนร้ายตะครุบรวบตัวได้ในที่สุด ซึ่งจากการขยายผลพบว่ามีการก่อเหตุลักษณะนี้มาเป็นจำนวนมาก วิเคราะห์ว่าทำเป็นประจำทุกวัน เชื่อว่าตลอด 2-ปี ที่คนร้ายก่อเหตุมากโดยคนร้ายจะนำเงินที่ได้มาไปเล่นการพนันออนไลน์

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยให้การว่า “ตนเองไม่ได้กรรโชก แต่เป็นการขอเงิน ตนเองทำเช่นนี้มาตั้งแต่ปี 2565 เพราะว่าตนเองหางานทำไม่ได้ จึงทำเช่นนี้มาเรื่อยๆ และเมื่อประมาณปี 2566 ตนเองร่อนเร่ไปก่อเหตุที่ จ.เชียงใหม่ จนหวิดเกือบถูกรุมประชาทัน แต่รอดมาได้เพราะยอมคืนเงินให้กับผู้เสียหาย ล่าสุดวันนี้ได้มาก่อเหตุที่ถนนพญาไทได้เงินมา 800 บาท แต่นำไปเล่นพนันออนไลน์หมดแล้วจนเหลือเงินติดตัวเพียง 50 บาท โดยที่ชอบให้เหยื่อโอนเงินเข้าทรูมันนี่เพราะจะนำไปเล่นพนันออนไลน์”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา เพราะเราได้ข้อมูลจากผู้เสียหายมาแล้วหลายราย ซึ่งขัดแย้งกับที่คนร้ายอ้าง และคดีนี้นับได้ว่าผู้ต้องหาเป็นภัยต่อสังคมอย่างแท้จริง เพราะมีพฤติกรรมเร่ร่อนไปทั่วประเทศก่อเหตุทุกวันที่น่ากลัวคือคนร้ายจะมุ่งเน้นเฉพาะเหยื่อที่เป็นเด็กนักเรียน-นักศึกษา เชื่อว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียหายมากกว่า 200 รายที่ตกเป็นเหยื่อให้กับมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งในจำนวนนี้ยังมีอีกมากที่ปล่อยผ่านไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะมูลค่าทรัพย์สินไม่มาก ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ ผมขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ผู้ใดที่เคยถูกผู้ต้องหารายนี้ กรรโชกทรัพย์ หรือหลอกเอาทรัพย์สิน ด้วยวิธีการใดๆ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจสืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.จรเข้น้อย ดำเนินคดีต่อไป