เร่งหาตัว! รองผอ. รร. จ.ลำพูน หลัง หายตัวปริศนาน นานกว่า 9 วัน ไม่พบร่องรอย ขาดการติดต่อ พ่อคาด ลูกชายเครียดสะสม
จากกรณีรองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม หายตัวออกจากบ้านอย่างปริศนา โดยโลกออนไลน์ต่างช่วยกันแชร์ และประกาศตามหาคนหาย พร้อมเผยภาพ นายฤชากร ใจสันติ รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ต.ในเมือง อ.เมืองลำพูน จังหวัดลำพูน หายออกจากบ้านพัก ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 ล่าสุดวันที่ 25 มิ.ย. 2567 ยังไม่พบตัว นายฤชากร ใจสันติ
โดยวันนี้ 25 มิถุนายน 2567 ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพรถของ นายฤชา ใจสันติ หรือ “แบงค์” รองผอ. และรักษาการ ผอ.โรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ที่ได้หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้รวมกว่า 9 วันแล้ว
เบื้องต้นได้สรุปไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิด เริ่มจากเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2567 ออกจากบ้านสันทราย ไปโรงเรียนตั้งแต่ช่วงเวลา 08.49 น. โดยรถมุ่งหน้าไปปลำพูน เส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ก่อนช่วยเวลา 12.11 น. กล้องวงจรปิดของปั้มน้ำมันปตท. รถเก๋ง สีบรอนเทายี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข 6610 ลำพูน ของนายฤชา ได้ รถแวะเติมน้ำมัน ที่ปั้มปตท.เขตตำบลหนองหนาม อำเภอเมืองจังหวัดลำพูน แต่พอตกเย็น นายฤชา ไม่กลับบ้าน
วันที่ 17 มิ.ย. 2567 ได้มีการเข้าแจ้งความคนหาย และพยายามโทรติดนายฤชา แต่ไม่รับสาย จนกระทั่ง เวลา 08.08 น. ไม่สามารถติดต่อได้ พบสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้าย อยู่ที่บริเวณถนนลำพูน-เชียงใหม่สายใน หมู่ที่ 2 ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และกล้องวงจรปิด ก็ไม่สามารถจับภาพได้อีกเลย
จาการสอบถามนาย นายเฉลิม พ่อของนายฤชา ที่หายตัวไปเล่าว่า ลูกชายเป็นคนดี เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ ชอบเข้าวัดเข้าวา ส่วนตัวคาดว่าการหายตัวไปของลูกชาย น่าจะเกิดจากความเครียดสะสมปัญหาในที่ทำงาน เพราะก่อนหน้านี้ได้ย้ายจากโรงเรียนเทศบาลสันป่ายางหน่อม ไปทำงานในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวี เขตเทศบาลเมืองลำพูนชั่วคราว
- หวั่นใจ! ชาวบ้านวอน ตร. เร่งหาตัว มือปืนขอนแก่น หลังยิงรถ-หอพัก นศ.
- วัยรุ่นเหิม! ถีบรถตร.สายตรวจล้ม หนีความผิด หลังลักลอบ ตัดสายไฟ
- พิตบูลโหด! กระโดดขย้ำ คุณยายวัย 72 แขนเกือบขาด หลังหลุดออกจากบ้าน
ก่อนเกิดปัญหาได้มีเจ้าหน้าที่การเงินคนหนึ่ง นำเอกสารการเบิกเงินงบประมาณของ โรงเรียนเทศบาลวัดจามเทวีมาให้เซ็นเพื่อเบิกเงิน กว่า 1 แสนบาท และหายตัวไปหลังจากเบิกเงินคาดว่าน่าจะเชิดเงินหนี เคยเล่าให้คนใกล้ชิดฟังโดยกลัวจะจะต้องถูกดำเนินคดี และหวั่นใจถูกให้ออกจากราชการทำให้เกิดความเครียดสะสม
ส่วนตัวตนในฐานะคนเป็นพ่อ คิดว่าเงินจำนวนนี้ยังพอมีทางออกที่จะแก้ปัญหาได้ และคิดว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ หากทราบว่าขอให้กลับมาแก้ปัญหา ส่วนลูกชายจะไปไหนนั้นยังไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะหลบไปปฏิบัติธรรมที่ไหนซักแห่ง เพราะลูกชายเป็นคนชอบทำบุญชอบปฏิบัติธรรม
