เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2566 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ได้รับแจ้งจากนายหลงเฝี๊ยะ บางสัก ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมู่บ้านน้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง เรื่องพบซากพะยูนเกยตื้นบริเวณหน้าหาดหยงหลำ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
ห่างจากฝั่งประมาณ 300 ม. ทางเจ้าหน้าที่ศวอล. ร่วมกับนายพริษฐ์ นราสฤษฏ์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง เข้าตรวจสอบซากพะยูน เบื้องต้นทราบว่าเป็นซากพะยูน เพศผู้ ความยาววัดแนบ 262 ซม. ช่วงโตเต็มวัย สภาพซากสด ความสมบูรณ์ของร่างกายสมบูรณ์ (3/5 Body Condition Score) ลักษณะภายนอกพบบาดแผลจากพฤติกรรมฝูง พบเพรียงขนาด 0.5 ซม. กระจายอยู่ทั่วลำตัว ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ภายนอกร่างกาย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ อช. หาดเจ้าไหมในการขนย้ายซากพะยูนตัวดังกล่าวมายังศูนย์วิจัยฯ จ.ตรัง เพื่อทำการรักษาสภาพซากและชันสูตรซากโดยสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ศวอล.ในวันต่อไป
พะยูน
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่อาศัยอยู่ในทะเล เชื่อว่าพะยูนเคยอาศัยหากินอยู่บนบก และมีบรรพบุรุษที่ใกล้เคียงกับบรรพบุรุษของช้าง เมื่อราว 55 ล้านปีมาแล้วสายพันธุ์ของพะยูนได้มีวิวัฒนาการลงไปอยู่ในน้ำและไม่กลับขึ้นมาอยู่บนบกอีกเลย เช่นเดียวกับพวกโลมาและปลาวาฬ
พะยูน (Dugong dugon)
มีลำตัวรูปกระสวยคล้ายโลมา ลำตัวมีสีเทาอมชมพูหรือน้ำตาลเทา สีของส่วนท้องอ่อนกว่า พะยูนมีขนสั้นๆ ประปรายตลอดลำตัวและมีขนเส้นใหญ่อยู่อย่างหนาแน่นบริเวณปาก มีตาและหูขนาดเล็กอย่างละคู่ ส่วนของหูเป็นรูเปิดเล็กๆ ไม่มีใบหู มีรูจมูกอยู่ชิดกันหนึ่งคู่ รูจมูกมีลิ้นปิด-เปิด พะยูนหายใจทุก 1-2 นาที มีครีบด้านหน้าหนึ่งคู่อยู่สองข้างของลำตัวและมีติ่งนมอยู่ด้านหลังของฐานครีบ ครีบทั้งสองเปลี่ยนแปลงมาจากขาคู่หน้า ภายในครีบประกอบด้วยนิ้ว 5 นิ้ว ปกติพะยูนว่ายน้ำช้าด้วยความเร็ว 1.8-2.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง พะยูนมีกระดูกที่มีโครงสร้างแน่นและหนักซึ่งเหมาะกับวิถีชีวิตของพะยูนที่อาศัยหากินอยู่ที่พื้น พะยูนไม่มีอาวุธป้องกันตัว มีเพียงลำตัวที่ใหญ่ มีหนังหนาซึ่งอาจป้องกันอันตรายจากการกัดหรือทำร้ายจากสัตว์อื่นเช่น ฉลาม เมื่อมีบาดแผลเลือดแข็งตัวได้เร็วมาก ส่วนลูกอ่อนจะอยู่กับแม่และอาศัยตัวแม่เป็นโล่กำบังที่ดี