ลูกบ้านสุดแค้น! บุกยิงผู้ใหญ่บ้าน ดวลปืนสนั่น คาดไม่พอใจ ตัดกอไผ่ที่พาดสายไฟหน้าบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เผย! รอดตาย เพราะแขวนเหรียญ ร.5
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 7 ส.ค.67 ร.ต.อ.ภาณุวัฒน์ มณีน้อย รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกัน ที่ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่6 เลขที่ 59 หมู่ที่ 6 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บัวขาว ผกก.สภ.ขุนทะเล พ.ต.ท.จรูญ รอดพันชู สว.สส.สภ.ขุนทะเล เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านของนายจำนงค์ เพลินแก้ว หรือผู้ใหญ่เขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 เป็นเจ้าของบ้าน บริเวณหน้าบ้านมีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์เงิน ทะเบียน ผผ1077 สุราษฎร์ธานีจอดอยู่ ที่ประตูด้านขาวมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 1 นัด และที่บริเวณพื้นในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกอยู่เกลื่อนพื้นจำนวนหลายนัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายจำนงค์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้านขณะที่กำลังลงจากรถได้มีนายประภาส สุวรรณน้อย ซึ่งเป็นลูกบ้านและมีบ้านอยู่เยื้องกันประมาณ 30 เมตร ได้เดินเข้ามาในระยะประมาณ 3 เมตร และได้ชักปืนออกจากกระเป๋าคาดเอวทางด้านหน้า แล้วรัวยิงใส่ใส่หลายนัดโดยไม่มีการพูดคุยกัน ตนเองจึงได้กระโดดหนีออกจากรถ แล้วได้ชักปืนยิงสวนไปเพื่อป้องกันตัวด้วยเหมือนกัน
ส่วนสาเหตุตนเองก็งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตนเองและผู้ก่อเหตุก็ไม่คุยกัน แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนเคยมีปัญหากันเรื่องก่อไผ่ที่ปลูกในที่ดินของคู่กรณีได้สูงและมาพาดสายไฟฟ้าทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหมู่บ้าน จึงได้ไปบอกให้ผู้ก่อเหตุทำการตัดแต่ง แต่สร้างความไม่พอใจกัน และล่าสุดก่อนวันเกิดเหตุได้มีเหตุต้นไผ่ก่อเดิมได้พาดสายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับอีก และในช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าเข้ามาทำการตัดแต่งกิ่งไม่ให้มาพาดสายไฟ จึงเป็นไปได้ว่าทางผู้ก่อเหตุอาจจะเข้าใจว่าตนเองเป็นคนสั่งให้มาตัด
ซึ่งจริงๆแล้ว ตนเองไม่ได้รู้เรื่องเลย ทั้งนี้อาจเกิดจากความเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน ซึ่งความคิดส่วนตัวที่รอดมาได้จากเหตุการณ์ อาจเป็นเพราะตนเองแขวนเหรียญรัชกาลที่ 5 และพระสมเด็จติดตัวตลอด แต่ที่สำคัญกว่าคือตนเองสำนึกถึงบุญคุณพ่อแม่ผู้มีพระคุณมาโดยตลอด จึงทำให้รอดชีวิตมาได้
ด้าน พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู่ก่อเหตุได้หลบหนี้ไป ซึ่งตนเองได้เรียกเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมวางแผน ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าหลบหนี้ไปที่ หรือได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้จะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
