ความคืบหน้ากรณี สมรักษ์ คำสิงห์ และ เยาวชนซึ่งเป็น เด็กอายุ 17 ปี นั้นยังคงเป็นเรื่องราวที่ไม่จบสิ้น และอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนสอบสวน โดยเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2566 นั้นได้มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีของ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ว่าควรเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.ขอนแก่น เพราะอาจเป็นเหตุบรรเทาโทษจากหนักเป็นเบาได้ แต่หลังถูกศาลอนุมัติหมายเรียกใน 4 ข้อกล่าวหา นายสมรักษ์ ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาอยู่
และแน่นอนว่าประเด็นนี้ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของ สมรักษ์ อย่างมาก เนื่องจากเจ้าตัวนั้นเป็นถึง ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก และถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นนักมวยแล้ว แต่ยังคงทำงานมีหน้ามีตาในวงการบันเทิงและยังเล่นการเมือง เป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย
ทั้งนี้จากกระแสดังกล่าว ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องจากสังคมว่า ควรเปลี่ยนคำขวัญของจังหวัดขอนแก่นที่มีความว่า “พระธาตุขามแก่น เสียงแคนดอกคูน ศูนย์รวมผ้าไหม ร่วมใจผูกเสี่ยว เที่ยวขอนแก่นนครใหญ่ ไดโนเสาร์สิรินธรเน่ สุดเท่เหรียญทองมวยโอลิมปิก” นอกจากนั้นยังมีป้ายทางเข้าหน้าหมู่บ้านที่มีของสมรักษ์ติดอยู่ด้วย
ป้ายนี้ได้มาเพราะความดีงาม วอนสังคมแยกแยะ
โดยในประเด็นนี้ ทางด้าน นายชูชัย ชูเกษม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเยอะเกินไป เอาแค่พอสมควรดีกว่าเพราะคนที่ทำให้สังคมรู้จัก อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ก็คือสมรักษ์ ขอให้คงคำขวัญไว้ก่อนให้คดีถึงที่สุด ตอนนี้ให้กฎหมายบ้านเมืองว่ากันไป หลังจากนั้นผลออกมาอย่างไรก็มาพูดคุยกันใหม่
ส่วนการถอดป้ายทางเข้าหมู่บ้านที่มีข้อความ “สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษนักชกเหรียญทองโอลิมปิก” นายชูชัย กล่าวว่า ได้ยินมาเองกับหูที่มีคนวิจารณ์ถึงเรื่องนี้ ตนจึงได้พูดปรามไปว่า ป้ายนี้ได้มาด้วยความภาคภูมิใจไม่ใช่ได้มาเพราะความไม่ดี และนอกจากป้ายทางเข้าหมู่บ้าน ในที่ สมรักษ์ คว้าเหรียญทองโอลิมปิก ในปี 2539 ยังมีคนสร้างถนนยางมะตอยให้ จากถนนมิตรภาพสุดทางรถไฟเขตหมู่บ้านกว่า 1 กม. พร้อมตั้งชื่อถนนว่า “สมรถ-สมรักษ์ คำสิงห์” ซึ่งสิ่งนี้สร้างความเจริญให้หมู่บ้าน นอกจากนั้นยังมีการช่วยเหลือในการมอบอุปกรณ์กีฬา และสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในจังหวัดอีกด้วย
ที่มา : mcot.net