รวบ! ร้านแผงลอย ลักลอบขาย กัญชา ย่านสุขุมวิท 11 ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน

แพทย์แผนไทยฯ ร่วม ตร.ลุมพินี จับ ร้านแผงลอย ลักลอบขาย กัญชา ย่านสุขุมวิท 11 ศาลสั่งจำคุก 2 เดือนแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี

เมื่อวานนี้ (18 มี.ค. 66) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมมือกับ สถานีตำรวจลุมพินี กรุงเทพฯ ลงพื้นที่จับกุม ผู้ประกอบการ รถเร่-แผงลอย กรณีจำหน่ายช่อดอกกัญชา ย่านปทุมวัน ซอยสุขุมวิท 11 หลังประชาชนร้องเรียน พบผู้กระทำผิดกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ.2565 จำนวน 2 ราย จับทันที สั่งปรับ รอลงอาญา 2 ปี ดังนั้นขอให้ผู้ประกอบการธุรกิจกัญชา ดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อช่วยกันคุมการใช้กัญชาในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ

ได้เบาะแสจากประชาชน

นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า เมื่อคืนก่อนที่ผ่านมา มีเหตุร้องเรียนของประชาชน ณ พื้นที่ เขตปทุมวัน ซอยสุขุมวิท 11 กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มอบหมายให้ ดร.นันทศักดิ์ โซติชนะเดชาวงศ์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองฯ และนายวรพจน์ ภู่จินดา ผอ.กลุ่มกฎหมายและจริยธรรม พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมลงที่พื้นตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเหตุร้องเรียนของประชาชน ณ พื้นที่ เขตปทุมวัน ซอยสุขุมวิท 11 ในเขตความรับผิดชอบของ สน.ลุมพินี ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการ จำนวน 2 ร้าน

เผาแล้ว!! สารวัตรกานต์ – ตร.ยัน ไม่พบประวัติเสพกัญชาในที่ทำงาน

เตือน! “กัญชา” บริโภคมากเกิน เสี่ยงเกิดผลกระทบต่อสมองและสุขภาพ

หมอสมิทธิ์ โพสต์เดือด ”หยุดกล่าวว่ากัญชา ไม่เกี่ยวกับอาการจิตเวช”

พบว่า ผู้ประกอบการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม โดยไม่ได้รับอนุญาตทั้ง 2 ราย มีลักษณะเป็น Food truck และแผงลอยริมถนน จึงได้ทำการยืดของกลางและดำเนินการส่งเจ้าพนักงาน ตำรวจดำเนินการ

ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ได้กระทำความผิดตามกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจ ยึดอายัดของกลาง สั่งปิด พร้อมส่งเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินการจับกุมดำเนินคดี ตามขั้นตอนกฎหมาย โดยเจ้าพนักงานตำรวจ ตั้งวงเงินประกัน รายละ 20,000 บาท เพื่อนำส่งฟ้องศาลแขวงในพื้นที่ ศาลสั่งลงโทษ ผู้ต้องหารับสารภาพ ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน โดยโทษจำคุกศาลให้รอลงอาญา 2 ปี สั่งปรับทั้ง 2 ราย เป็นจำนวนเงินรายละ 10,000 บาท เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือรายละ 5,000 บาท และ ริบของกลาง