แยม ฐปนีย์ เหลืออด! เจอไอโอปลุกปั่น ป้ายสี ยัน ไม่ได้ทำข่าวเอามัน ก่อนลั่นถาม ประชาชนธรรมดา ฟ้องหน่วยงานรัฐได้ไหม?
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวชื่อดังอย่าง แยม ฐปนีย์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังถูกใส่ร้ายป้ายสีโดยไอโอ เกี่ยวกับการทำข่าว โดยระบุว่า ถ้าเราจะฟ้องหน่วยงานรัฐที่ใช้ขบวนการไอโอ ในการยุยง ปลุกปั่น ใส่ร้ายป้ายสีประชาชนจะได้ไหมคะ!!
ย้ำอีกครั้ง !! ไม่ได้ทำข่าวเอามัน แต่หวังให้เกิดผลเปลี่ยนแปลง นี่คือเหตุผลที่ยังคงทำข่าวเอง เหนื่อยที่จะเดินทาง เพื่อไปดู ไปคุยไปฟังเอง จะได้เข้าใจและรายงานไปตามข้อเท็จจริง ไม่ว่าฝ่ายใดจะคิดอย่างไร ที่ผ่านมา เราไม่ได้ทำข่าวเข้าข้างใครหรอก แค่เรารายงาน ในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำมากกว่า
ด้วยข่าวที่ทำมันเป็นข่าวความขัดแย้ง ข่าวที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ จนถูกไอโอ(ปฏิบัติการข่าวสารของรัฐ)โจมตีเสมอ ถูกกล่าวหาว่า เป็นนักข่าวโจรบ้าง นักข่าวขายชาติบ้าง มันจะมีมาตลอด เวลาทำข่าวที่ไปขัดแย้งนโยบายความมั่นคงของรัฐ (รัฐราชการ-รัฐทหาร-รัฐบาล แล้วแต่ละยุคสมัย)
การรับมือกับไอโอพวกนี้ พอเห็นคอมเมนต์ที่มาเป็นชุดคำเดียวกัน ก็เปิดไปดูโปรไฟล์ ถ้าใช้ชื่อกับรูปไม่ตรงกัน ไม่มีโพสต์อะไรเลย นั่นแหละไอโอ เราก็แคปภาพมาแฉ และบล็อกไปเลยค่ะ อย่าไปกลัวค่ะ (แต่ก็ไล่ลบไล่ฟ้องไม่ทันหรอกค่ะ 555)
พื้นที่ของเราจะปล่อยให้ขบวนการไอโอของรัฐ มาใส่ร้ายป้ายสี และยุยง ปลุกปั่น ทำไมคะ ถามจริง เราปกป้องตัวเองได้และเอาเข้าจริง ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน การปิดปากประชาชน มันมาจากรัฐหรือไม่ เราจะปล่อยให้ขบวนการไอโอเหล่านี้สร้างความวุ่นวายจริงๆเหรอคะ ถ้าประชาชนจะฟ้องหน่วยงานรัฐที่ทำแบบนี้กับประชาชน จะได้หรือไม่
อย่างข่าวคดีชุดมลายู เราทำมานานแล้ว ตั้งแต่กลุ่มน้องๆที่เติบโตเป็นภาคประชาสังมาจัดงานรวมคนได้หลายหมื่นคน เราเริ่มต้นกันมากว่า 10 ปีแล้ว ผลมาจากการไปลงพื้นที่ทำข่าวสันติภาพชายแดนภาคใต้
เราไม่ได้ทำแค่ความรุนแรง แต่เราศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งอ่านหนังสือ พูดคุยกับผู้คน ทำความเข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง ทำอย่างนี้มาตลอดกว่า 20 ปี
เราได้คำตอบว่า สันติภาพในใจที่คนในพื้นที่อยากได้ มันอาจมีคำตอบง่ายๆ แค่ได้รับการยอมรับในอัตลักษณ์ตัวตน ชาติพันธุ์ ความเป็นรัฐชาติปาตานี ประวัติศาสตร์ ว่าพวกเขาเคยอยู่ในดินแดนนี้มาก่อน การไม่กดทับประวัติศาสตร์ของเขา การให้เขาได้รับความยุติธรรม และอยู่ร่วมกับพวกเราในฐานะเพื่อนร่วมชาติไทยอย่างมีศักดิ์ศรี ทำให้ได้ก็จะไม่มีใครคิดแบ่งแยกดินแดนหรอกค่ะ
เราเชื่อว่าการเปิดพื้นที่สื่อสาร ให้พวกเขาได้แสดงความรู้สึก ความต้องการ เพื่อร่วมกันแสวงหาแนวทางในการแก้ปัญหาด้วยกัน มันคือกระบวนการสันติภาพอย่างหนึ่ง
การปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ และประวัติศาสตร์ และการผลักไสให้พวกเขาเป็นแนวร่วมต่างหาก ที่เป็นภัยกับความมั่นคง ในอดีตแกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดน ก็ถูกกระทำแบบนี้ ถูกยัดข้อหา กล่าวหา ไม่ได้รับความยุติธรรม จนต้องหนีออกนอกประเทศ และเข้าร่วมขบวนการในที่สุด ซึ่งนั่นก็เป็นคำถามกลับไปว่า ใครกันแน่ที่ยุยงปลุกปั่น
เราเดินทางไป รร.ตชด.บ้านตืองอ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ก็เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของครู ตชด.ที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง ชีวิตของครู ตชด.ทั้งสองท่าน ก็มีคุณค่า และไม่ควรสูญเสีย รวมถึงทุกๆชีวิต
การยุติความรุนแรง การยุติการใช้อาวุธ คือสิ่งที่ต้องเรียกร้อง และหาแนวทางในการแสวงหาสันติภาพร่วมกัน นั่นคือสิ่งที่ชาวบ้านศรีบรรพต อยากเห็น เราเชื่อมั่นเสมอว่า สิ่งที่ทำอยู่ จะส่งผลให้คนได้รับรู้ในอีกแง่มุม ที่ไม่ได้ถูกนำเสนออกไปในสื่อส่วนใหญ่
การต่อสู้กับอะไรแบบนี้ มันเหนื่อย บางทีก็ต้องยอมเป็นหนังหน้าไฟ ยอมให้ถูกใส่ร้ายและโจมตี แต่เราเชื่อมั่นว่า ความตั้งใจของเรา จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริงในสักวัน ภายใต้การซื่อสัตย์กับหลักการของตัวเองอย่างมั่นคง รวมถึงทุกๆเรื่องที่ทำตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนเมียนมา,ค้ามนุษย์,สแกมเมอร์ ก็หลักการเดียวกัน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามค่ะ
