จนได้! นักล่าเหรียญ เริ่มก่อความวุ่นวาย บุกพื้นที่ส่วนตัว ไม่สนเจ้าของบ้าน

เรียกว่าช่วงนี้ใครที่เล่นโซเชียลบ่อยๆ ก็มักจะเห็นคลิปวิดีโอการล่าเหรียญชนิดหนึ่ง เพื่อเอา QR Code นั้นไปแสกนและแลกเงินได้ โดยวิธีการเล่นคือแอปพลิเคชั่นดังกล่าวจะบอกพิกัดเหรียญที่ซ่อนอยู่ในสถานนี้นั้นๆ จากนั้นนักล่าเหรียญก็จะทำการตามล่า ซึ่งสิ่งนี้กำลังเป็นกระแสหนักมาก จนมีการทำคอนเทนต์ลง Tiktok และกลายเป็นไวรัล ส่งผลให้มีผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ตามการตามล่าเหรียญที่ว่านั้น กลับเริ่มมีกระแสรุนแรงขึ้นทุกวัน จนเรื่องราวมันลามปามไปถึงขั้นการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว เพราะล่าสุดได้มีภาพกล้องวงจรปิดจากบ้านหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ที่ ถนนมูลเมือง ซอย 9 ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ ได้บันทึกภาพกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงหลายสิบคน พากันเข้าไปตามล่าเหรียญบริเวณริมถนนและรั้วบ้าน ซึ่งจากภาพแต่ละคนก็พยายามค้นหาตามจุดต่างๆ กันอย่างจริงจัง

• อย่าหาทำ! คนไข้ซื้อที่อุดฟันจาก TikTok มาทำเอง แพทย์เตือนอาจติดเชื้อ
• เกือบพัง! เจ้าของ tiktok ไล่เด็กฝึกงานออก หลังพยายามแฮกระบบ AI
• สุดทน! เมียหลวงร้อง ผัวตำรวจ คบชู้ แม่ค้าใน TikTok ลั่น แค่คอนเทนต์

นักล่าเหรียญเริ่มก่อความวุ่นวาย

นอกจากนั้นความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านยังไม่หมด เพราะนักล่าเหรียญยังได้ขุดต้นไม้ ปีนรั้วบ้าน งัดตู้ดับเพลิง บางคนปีนรั้วมางัดมิเตอร์ไฟฟ้า ทางด้านเจ้าของบ้านจึงเล่าว่า ในช่วงเย็นวานนี้ เวลาประมาณ 16.30 น. ขณะที่กำลังเปิดร้านกาแฟซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้านของตัวเอง จู่ๆมีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงขี่จักรยานยนต์มาที่หน้าบ้าน ทยอยเข้ามาที่ละมากขึ้น ซึ่งท่าทางของแต่ละคนนั้นเหมือนกำลังหาบ้างอย่าง ตนสงสัยและกลัวว่าจะเกิดอันตรายจึงเข้าไปถามและได้ทราบว่าพวกนั้นมาหาเหรียญตามแอปพลิเชั่น ตนจึงคิดว่าไม่น่ามีอะไรก็เลบปล่ยไปก่อนตอนแรก

แต่ต่อมากลุ่มนักล่าเหรียญยังเดินเข้ามาไม่ขาดสาย และยังค้นหาเหรียญกันต่อถึง 3 ทุ่ม ทำให้ตนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจเพราะอย่างที่เล่าไปในข้างต้น ว่าแต่ละคนหาแบบไม่เกรงใจเจ้าของบ้านทั้งๆที่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ตนจึงไปแจ้งประธานชุมชนและสายตรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้ามาขอความร่วมมือ ก่อนที่ทั้งหมดจะทยอยออกไปจากซอย

ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ต.วรวิทย์ จึงได้สั่งการให้ กองกำกับการสายตรวจ ยกระดับการป้องกันเหตุ โดยออกเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้แอปพลิเคชั่นดังกล่าว หลีกเลี่ยงการรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล และเฝ้าระวังภัยจากมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ หากประชาชนในกรุงเทพฯ บริเวณใดได้รับความเดือดร้อน หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้ง สายด่วน 191 เพื่อให้ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทันที