กฎหมายสมรสเท่าเทียมดันท่องเที่ยวไทยพุ่ง หลังกฎหมายสมรสเพศเดียวกันที่จะมีผลบังคับใช้ สร้างรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยผลศึกษา Agoda ชี้กฎหมายสมรสเพศเดียวกันที่จะมีผลบังคับใช้ 22 มกราคม 2568 จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 69,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปี พร้อมสร้างงานเพิ่ม 152,000 ตำแหน่ง และเพิ่ม GDP 0.3% รัฐบาลเดินหน้าผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน WORLD PRIDE 2030 ต่อไป
วันนี้ (27 พ.ย. 67) น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ Agoda ได้ทำการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการบังคับใช้กฎหมายสมรสเพศเดียวกันในประเทศไทย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มกราคม 2568 โดยคาดการณ์ว่าจะทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนและประเทศที่ 3 ในเอเชียที่รับรองกฎหมายดังกล่าว
ผลการศึกษาของ Agoda ชี้ว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านคนต่อปี หรือคิดเป็นประมาณ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 69,000 ล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 2 ปี หลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้ รายได้ดังกล่าวจะกระจายไปยังหลายภาคส่วน อาทิ การจองที่พัก การบริการอาหารและเครื่องดื่ม การจับจ่ายซื้อสินค้า และการเดินทางภายในประเทศ

- เปิดข้อกฎหมายแพ่ง สมรสเท่าเทียม แก้ใหม่ สมรสไม่จำกัด ชาย-หญิง
- ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลบังคับใช้ใน 120 วัน
- แซะแรง! คนเกาหลีใต้ เมนต์เหยียด กฎหมายสมรสเท่าเทียม ของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้นอีก 152,000 ตำแหน่ง โดย 76,000 ตำแหน่ง จะเกิดขึ้นโดยตรงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอีก 76,000 ตำแหน่งจะกระจายไปยังภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจไทย และจะช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยเพิ่มขึ้น 0.3%
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายสมรสเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน “WORLD PRIDE 2030” ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศระดับโลก โดยอ้างอิงจากรายงานของ Agoda ที่ระบุว่า การจัดงาน WORLD PRIDE 2023 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย สามารถสร้างรายได้ถึง 185.6 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท รัฐบาลมั่นใจว่าการสนับสนุนความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศจะช่วยเสริมสร้างยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวของประเทศไทยและสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจจำนวนมากต่อไป