'วันนอร์' ลาออกจาก พรรคประชาชาติ เพื่อเตรียมตัวนั่งเก้าอี้ ประธานสภาฯ

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเตรียมตัวนั่งเก้าอี้ ประธานสภาฯ ด้วยความเป็นกลาง

วานนี้ 4 ก.ค.66 หลังจากการเปิดสภาฯ เพื่อประชุมครั้งแรกเสร็จสิ้นลง อย่างที่ทราบกันดีว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ นั้นได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ไปอย่างเอกฉันท์ โดยไม่มีผู้คัดค้าน และไม่มีผู้เสนอชื่อแข่งขัน ล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ ยอมรับว่าได้ทำหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาชาติแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 66 และมีผลทันที เพื่อให้การทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความเป็นกลาง

ทั้งนี้ ระหว่างที่รอกำหนดวันประชุมใหญ่สามัญ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ พรรคได้มอบหมายให้นายวรวีร์ มะกูดี อดีตรองหัวหน้าพรรคทำหน้าที่ รักษาการหัวหน้าพรรคไปก่อน จนกว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

รู้จัก! “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ คนแรกที่เป็นชาวไทยมุสลิม

ไม่มีใครสู้! เสนอชื่อ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เป็น ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ชัยชนะ ลั่น! โหวต ‘วันนอร์’ ปัดโหวต รองปธ.สภา ก้าวไกล เพราะขัดจุดยืน

วันมูหะมัดนอร์ กล่าววิสัยทัศน์

โดย นายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวอธิปรายวิสัยทัศน์ ขณะโหวต ประธานสภาฯ ว่า “ผมขอขอบคุณท่านสมาชิกที่เสนอชื่อผมทำหน้าที่ประธานสภาในครั้งนี้ และถ้าผมได้รับความไว้วางใจจากท่านทั้งหลายให้ทำหน้าที่เป็นประธานสภาฯ ในครั้งนี้ ผมขอยืนยันกับท่านทั้งหลายทุกท่านว่า

1. ในประการแรก ผมจะทำหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทางการเมือง และจะน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานให้กับสมาชิกรัฐสภาสมัยที่ 26 เมื่อวานนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของพวกเราต่อไป

2. ผมจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใสสุจริตตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับของสภาทุกประการ

3. ผมจะกำหนดแนวทางร่วมกันกับผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาทั้ง 2 ท่าน ในการพิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติกระทู้ถาม อย่างเป็นระบบเพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ และเพื่อประโยชน์ของประชาชน

4. ผมจะให้ความสำคัญกับการปฏิบัติงานของคณะกรรมการทุกคณะทั่วไปแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อน ประชาชนของเราในทุกกรณี

5. ผมจะร่วมกับพวกเราเพื่อดำเนินการนโยบายทางด้านการต่างประเทศของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมุ่งเน้นความร่วมมือในงานระบอบรัฐสภาเพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายนิติบัญญัติ

6. ผมจะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลงานของสถาบันพระปกเกล้าให้มีประสิทธิภาพ ในการส่งเสริมงานของฝ่ายนิติบัญญัติ รวมทั้งจะสนับสนุนให้สถานีโทรทัศน์ของรัฐสภา สถานีวิทยุของรัฐสภา เป็นสถานีของประชาชน เพื่อจะส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยในทุกภาคส่วน ให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดไป”