สภาอันทรงเกียรติ “มีระเบียบอยู่แล้ว แต่ระเบียบไม่ได้สำคัญ เท่ากับความสำนึก และความรับผิดชอบ” นี่คือคำสัมภาษณ์บางช่วงบางตอนของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ผู้เขียนขอเรียกว่า “ลุงชวน” โดยกล่าวกับสื่อมวลชนกรณีที่เกิดเหตุการณ์จูบกัน ภายในอาคารรัฐสภาระหว่างการแถลงข่าวเพื่อเรียกร้อง ในเรื่องความหลากหลายทางเพศ หลังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง
สมกับฉายา “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง” เสียจริง ๆ แต่ก็ไม่แปลกที่ลุงชวน จะออกมาพูดในลักษณะนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เคยกล่าวตักเตือนส.ส.ในสภาหลายต่อหลายครั้ง เช่น “สภาไม่ใช่โรงเหล้าเถื่อน” และ “ห้องประชุมสภาฯไม่ใช่ห้องสัมมนา อยากกินอาหารให้ออกไปข้างนอก”
แต่เหตุการณ์นี้เป็นเพียงหนึ่งในความมลทินที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ มันช่างขัดกับ “สภาอันทรงเกียรติ” ที่ใครหลายคนพูดถึงกัน
นับตั้งแต่สภาถูกตั้งขึ้นอีกครั้งหลายจากห่างหายไปนาน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในอดีต แต่พอกลับเข้ามาสู่สถานการณ์ปกติตามระบอบประชาธิปไตย มันช่างแตกต่างจากสภาในยุคก่อน เพราะช่วงแรกที่ส.ส.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ ทำเอารัฐสภากลายเป็นเวทีเดินแบบ ที่นำโดย “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช และส.ส.เพศสภาพหลายคนของพรรคอนาคตใหม่ ที่ต่างอวดโฉมผ่านการแต่งกายราวกับกำลังเดินพรมแดง
วันดีคืนดี! “สหายเต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เล่นพิเรนนำเอาวัตถุระเบิดเข้าสภา อ้างว่าต้องการตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดมีประสิทธิภาพหรือไม่ บทสรุปตอนจบเพียงแค่ออกมาขอโทษ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ๆ ลุงชวน ต้องมาสางปัญหาความไร้จริยธรรม ของส.ส.อันทรงเกียรติ มาหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายลุงชวนก็จัดอบรม เพื่อให้ทุกคนอยู่ในร่องในรอยได้อยู่เสมอ ด้วยบารมีและความดีที่ลุงชวนได้สั่งสมมาในทางการเมืองหลายต่อหลายปี
แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุม “ครูธัญ” ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.อนาคตใหม่ ในฐานะโฆษกกมธ.ฯ ที่ดูจะไม่มีจิตสำนึกเสียเลย กลับโพสต์เฟซบุ๊กแถจนสีข้างถลอกว่า กาลเวลาที่ผ่านไปก็คงเป็นคำตอบ และโยงใยไปเกี่ยวข้องกับการเมืองเสียอีก ผิดกลับนางมุกดา พงษ์สมบัติ ประธานกมธ.ฯ ที่ออกมาขอโทษในสิ่งกระทำผิดแล้ว
แต่จากคลิปเห็นได้นะว่า ครูธัญ เป็นคนจัดฉากจูบให้เกิดขึ้นในสภา เพราะเป็นคนนับจังหวะ “5432แอคชั่น” แล้วจากนั้นฉากจูบก็เกิดขึ้น
ความรัก การจูบ ไม่ใช่สิ่งที่ผิด!
แต่สิ่งที่ผิด คือ จูบในสถานที่ใด?
ประเทศไทย ไม่ใช่เมืองฝรั่ง ที่จะจูบในสถานที่สาธารณะโดยไม่มีใครว่า แต่ที่นี่คือประเทศไทย และแถมยังเป็นสถานที่ราชการอย่างอาคารรัฐสภาอีก ดังนั้นหากจูบในสถานที่แห่งนี้ คงไม่แปลกที่จะโดนด่าว่ามันไม่เหมาะสม
ขอเถอะ! อย่าเอาเรื่องเพศสภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมันเป็นเรื่องกาลเทศะ หากผู้ชายจูบผู้หญิงในสภา มันก็ไม่เหมาะสมเหมือนกัน แถมเรื่องนี้ยังกระทบกับภาพรวมของกลุ่ม LGBTQ+ ที่ต่างสั่งสมความน่าเชื่อถือแก่สังคมมานาน แต่คุณกลับทำให้มันทลายลงมันแบบนี้
ก่อนที่จะทำอะไรควรคิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน คิดให้รอบด้าน ไม่ใช่สักจะทำอะไรก็ทำ และส.ส.อนาคตใหม่ ที่ภูมิใจนักภูมิใจหนากับการเป็นส.ส.เพศสภาพในสภา และเป็นผู้ผลักดันเรื่องนี้มาอย่างเต็มที่ แต่คุณกำลังทำให้สังคมดูถูกดูแคลนกับเรื่องการจูบปากกันกลางสภา และมันคือสิ่งที่ควรทำแล้วใช่หรือไม่
ส.ส. คือผู้แทนของประชาชน ควรทำตัวอย่างที่ดีเพื่อให้คุ้มกับที่ประชาชนเลือกคุณเข้ามา เพื่อให้สภา เป็นสภาอันทรงเกียรติ ไม่ใช่ สภาอันทรงเกลียด ที่สะกดแบบนี้อีกเลย
