บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ค่ำคืนแห่งความสุข ความหวัง และรอยยิ้มของเหล่าแฟนบอลไทย จบลงด้วยสกอร์ 1-1 ในเกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมชาติไทย (อันดับ 114 ของโลก) พบกับ ทีมชาติคองโก (อันดับ 90 ของโลก) เมื่อค่ำวานนี้ที่สนามบีจี ปทุม สเตเดียม รังเหย้าของ “เดอะ แรบบิท” สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่กำลังจะเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 1อีกครั้งในฤดูกาลหน้า
การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ครั้งนี้ ทางสมาคม ฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ตกลงเลือกใช้สนามแห่งนี้ แม้ว่าจะไม่ได้รับเลือกจากทางเอเอฟซีให้ใช้รองรับผู้ชมในศึกฟุตบอลชายชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะจัดขึ้นต้นปีหน้าที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพก็ตาม
แต่สนาม บีจี ปทุม สเตเดียม ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสนามฟุตบอลของไทยที่แฟนบอลลงมติว่า สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง โดยตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ติดกับถนนรังสิต-นครนายก ช่วงคลอง 4 อยู่ในบริเวณของบริษัท บางกอกกล๊าส กรุ๊ป ถือเป็นสนาม ระดับ เอ คลาส ที่ได้รับการรับรองโดยเอเอฟซีในปี พ.ศ. 2554
ภาพของ สนาม บีจี ปทุม สเตเดียม โฉมใหม่ปี 2019 สวยงามจัดจ้านในย่านรังสิตนี้ ไม่แพ้สนามฟุตบอลมาตรฐานของยุโรปเลย โดยปีที่แล้วทางบีจี ได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นหญ้าใหม่ จากเดิมที่เป็นสนามหญ้าเทียม มาเป็นสนามหญ้าจริงในปัจจุบัน เก้าอี้บนอัฒจันทร์ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด พร้อมระบุหมายเลขที่นั่งครบทุกโซนทั้ง 3 ด้าน และปรับโฉมสีเก้าอี้ให้เป็นโทนสีน้ำเงิน-ขาว (จากเดิมคือสีเขียว) อีกด้วย รองรับแฟนบอลได้กว่า 13,000 ที่นั่งเลยทีเดียว
บรรยากาศของการเชียร์ทีมชาติไทยเมื่อวานนี้ สำหรับแฟนบอลที่ไม่เคยเดินทางมาชมที่สนามแห่งนี้ ภาพรวมส่วนใหญ่ต่างก็ประทับใจกับระบบการจัดการของสนาม มีโซนขายอาหารและเครื่องดื่มมากเพียงพอ การเดินทางมาไม่ลำบาก สถานที่จอดรถมากพอรองรับจำนวนแฟนบอลที่มาชมเกมนี้ การรักษาความปลอดภัยก็ดีเยี่ยม หลายๆเสียงชมว่า …สนามสวยจริง! พื้นสนามยอดเยี่ยม ไม่สร้างอุปสรรคให้นักฟุบอลในสนามกับเกมการแข่งขันเลย
นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกมฟุตบอลดูสนุกด้วย บวกกับฟอร์มของเหล่าช้างศึกเมื่อคืน ที่ขยันเพรสซิ่ง โชว์ผลงานได้ดีเยี่ยมทุกตำแหน่ง แม้จะไม่มี 3 สตาร์เจลีก อย่าง ชนาธิป ธีราทร และฐิติพันธ์ก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้เอง มันจึงทำให้ทุกๆอย่างออกมาดีและมีความสุขจริงๆ
นี่จึงถือเป็นเกมฟีฟ่าเดย์ ระดับ A Match ที่เดอะ แรบบิท สอบผ่านฉลุย ทั้งมาตรฐานของสนาม และมาตรฐานในการรองรับจัดการแข่งขัน และหากว่าอนาคตข้างหน้า ทางบีจี สามารถที่จะทำสนามให้ครบ 4 ด้านได้สำเร็จ เชื่อได้เลยว่า สนามแห่งนี้จะได้รับบรรจุให้เป็นอีกหนึ่งสังเวียนสำคัญของประเทศไทยอย่างแน่นอน
และที่สำคัญอีกข้อหนึ่งที่ต้องบันทึกไว้ก็คือ ทีมชาติไทยยังไม่แพ้ใคร ณ สนามแห่งนี้ นั่นเอง
“นาซ่าบ้าบอล”