วันที่ 25 กันยายน เป็นวันเกิด จิตร ภูมิศักดิ์ ชายผู้เป็นนักคิด นักประวัติศาสตร์ นักเขียน ผู้ผลิตงานเขียนอันลุ่มลึกจนผลงาน 3 รายการของเขา คือ โฉมหน้าศักดินาไทยความเป็นมาของคำสยาม ไทย, ลาว และขอม และลักษณะทางสังคมของชื่อชนชาติ ได้รับยกย่องเป็นหนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน นอกจากนี้จิตรยังเป็นนักเคลื่อไหวทางการเมืองที่หันหน้าเข้าต่อสู้กับระบอบเผด็จการ และการกดขี่ด้านชนชั้น และเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2509 หลังเข้าร่วมต่อต้านการปกครองของเผด็จการทหาร โดยถูกตัวแทนเผด็จการคือ”กำนันแหลม”และพวกอาสาสมัครฝั่งตรงข้ามและเหล่าทหารตำรวจล้อมยิงจิตรเสียชีวิต
ตำนานที่ไม่อาจลืมเลือน
จิตร เดิมชื่อ สมจิตร ภูมิศักดิ์ แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็น จิตร เพียงคำเดียว ตามนโยบายตั้งชื่อให้ระบุเพศชายหญิงอย่างชัดเจน ของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เขาเป็นนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเรียนที่คณะอักษร จิตรได้เขียนบทความสะท้อนสังคม ประณามผู้เอารัดเอาเปรียบในสังคม ซึ่งรวมถึงรัฐบาลด้วย รวมทั้งชี้ให้เห็นค่านิยมอันไม่ถูกต้อง ที่สังคมไทยยกยอ จนถูกตั้งศาลเตี้ยไต่สวน ที่หอประชุมใหญ่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในเหตุการณ์นี้ นายสีหเดช บุนนาค” คณะวิศวกรรมศาสตร์ตั้งศาลเตี้ยจับ “โยนบก” ลงจากเวทีหอประชุม ทำให้จิตรบาดเจ็บสาหัสและเข้าโรงพยาบาล แต่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลับไม่ให้ความเป็นธรรมแก่จิตร และยังได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาโทษและมีมติให้จิตร ภูมิศักดิ์ถูกพักการเรียนเป็นเวลา 1 ปี คือในปี พ.ศ. 2497
ระหว่างถูกพักการเรียน จิตรได้ไปสอนวิชาภาษาไทยที่โรงเรียนอินทร์ศึกษา แต่สอนได้ไม่นาน ก็ถูกไล่ออกไป เนื่องจากถูกกล่าวหาว่ามีหัวก้าวหน้ามากเกินไป จิตรจึงไปทำงานกับหนังสือพิมพ์ไทยใหม่ ในช่วงเวลาดังกล่าวนี้เอง ที่จิตรได้สร้างสรรค์ผลงานการวิจารณ์ที่มีคุณค่าต่อวงวิชาการไทยหลายเรื่อง เช่น การวิจารณ์วรรณศิลป์ วิจารณ์หนังสือ วิจารณ์ภาพยนตร์ โดยใช้นามปากกา “บุ๊คแมน” และ “มูฟวี่แมน”
ปี พ.ศ. 2498 เขากลับเข้าเรียนอีกครั้งและสำเร็จปริญญาอักษรศาสตร์บัณฑิตในปี พ.ศ. 2500 จากนั้นก็เข้าเป็นอาจารย์ที่ “วิทยาลัยเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์” และศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร จนกระทั่งถูกจับในข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายใน และภายนอกราชอาณาจักรและกระทำการเป็นคอมมิวนิสต์” เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2501 เขาถูกคุมขังอยู่จนถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2507 จึงได้รับการปลดปล่อยและพ้นจากข้อหาของทางการ
เนื่องจากเขาถูกติดตามคุกคามจากทางการและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอย่างหนักทำให้เดือนตุลาคม พ.ศ. 2508 จิตรได้เดินทางสู่ชนบทภาคอีสาน เพื่อเข้าร่วมต่อสู้กับการปกครองด้วยระบบทหาร ในนาม สหายปรีชา ต่อมาด้วยการคุกคามจากอำนาจรัฐ จิตรถูกอดีตกำนันตำบลคำบ่อ อาสาสมัคร และทหาร ล้อมยิงจนเสียชีวิตที่ทุ่งนากลางป่าละเมาะใน”บ้านหนองกุง” ตำบลคำบ่อ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2509
จิตร ภูมิศักดิ์ไม่เลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
นักเคลื่อนไหวทางการเมืองรุ่นใหม่ ผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ได้ยกจิตร ภูมิศักดิ์เป็นภาพแทนความก้าวหน้าของหนุ่มสาวผู้ต่อสู้กับความอยุติธรรม ในยุคนี้ภาพของจิตร ภูมิศักดิ์ที่เห็นชินตาอาจเป็นภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กของ ทนายอานนท์ นำภา นักเคลื่อนไหวที่พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งคนรุ่นใหม่ยังยกย่องกวีของจิตรเป็นคุณูปการแรงใจในการต่อสู้กับอำนาจอันกดขี่ในปัจจุบัน รวมไปถึงมีความพยายามที่จะทวงคืนความยุติธรรมคืนให้แก่จิตร โดยเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อดีตประธานสภานิสิตจุฬาฯ ได้พยายามทวงคืนความยุติธรรมจากจุฬาลงกรณืมหาวิทยาลัยให้แก่จิตร และจัดกิจกรรมรำลึก เพื่อไม่ให้ชื่อของ จิตร ภูมิศักดิ์ เลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย