สถานการณ์การ ประท้วงฮ่องกง ในวันที่ 11 พย. ที่ผ่านมา มีผู้ประท้วง และ ผู้ที่ต่อต้าน การชุมนุมได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย โดยเป็นผู้ประท้วงสองรายอยู่ในอาการสาหัส หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแบบระยะประชิด ซึ่งมีผู้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ได้ และมีการส่งต่อไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ในวันเดียวกัน ลุงชาวฮ่องกงที่ต่อต้านกลุ่มผู้ประท้วง พร้อมออกมาเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม โดยหลังจากที่เขากล่าวว่า คนฮ่องกงก็คือคนจีน ก็ถูกราดด้วยนํ้ามันและจุดไฟใส่ทันทีระหว่างการโต้เถียง คลิปไฟลุกลามทั่วตัวของชายคนดังกล่าวสร้างความสยดสยองและความสะเทือนใจให้กับโลกโซเชี่ยลอย่างมาก
ทั้งนี้ ตั้งแต่การประท้วงเริ่มต้นเมื่อ 24 สัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ถูกยิงทั้งหมด 3 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตรายแรกจากเหตุการณ์ประท้วงคือ นายโจว ซี หลก (Chow Tsz-lok) นักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกง ชั้นปีที่ 2 วัย 22 ปี เขาได้เข้าร่วมประท้วง และพลัดตกจากลิฟท์ของลานจอดรถ ระดับความสูงประมาณ 4 เมตร หลังหนีการตามล่าของเจ้าหน้าที่ วันเกิดเหตุ โจว ซี หลก ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ล่าสุดได้เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านม
ด้าน แครี่ แลม Carrie Lam ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวเมื่อเย็นวันจันทร์และเตือนผู้ประท้วงว่าพวกเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในการเรียกร้องของพวกเขา พร้อมประกาศจะใช้มาตรการทุกอย่างยุติการประท้วงที่ยาวนานกว่า 5 เดือน แต่ก็แสดงความเป็นห่วงว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่ จุดที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้อีก หรือ ส่อให้เกิดการแตกหักในที่สุด
สำหรับการประท้วงในฮ่องกงที่ลุกลามและยืดเยื้อ ส่งผลให้ตอนนี้ เศรษฐกิจของฮ่องกงมาถึงจุดตกตํ่ามากที่สุดในรอบหลายปี ร้านค้าปิดไปหลายร้าน ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง ล่าสุด พนักงานออฟฟิศต่างพากันออกจากบริษัทมารวมตัวกันกลางถนน เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรีบแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด
ต้องรอดูต่อไปว่า มาตรการแก้ไขปัญหาของ แครี่ แลม นั้นเด็ดขาดพอที่จะจัดการกับผู้ชุมนุมได้หรือไม่ ส่วนผู้ชุมนุมเอง ที่มีการบาดเจ็บและสูญเสีย จะปลุกเร้าให้เกิดความเกลียดชังเจ้าหน้าที่จนมีการปะทะกันครั้งใหญ่อีกหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ผู้ที่สูญเสียจริงๆก็คือ ชาวฮ่องกงทุกคน