ซีเกมส์ 2019 ตกรอบแรกอีกครั้งในรอบเกือบ 10 ปี จากที่เคยตกรอบแรก ที่สปป.ลาว หรือเวียงจันทน์เกมส์ 2009 และอินโดนีเซีย 2011
หากมองในแง่ความรู้สึกยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวังครับ กับผลงานทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2019 ที่ไม่ได้ไปต่อเพื่อลุ้นเป็นคว้าเหรียญทองเพิ่มอีกสมัย จากที่เคยทำได้มาแล้ว 16 สมัย มากที่สุดแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น กับเพื่อนบ้านอาเซียนอันดับสอง คือมาเลเซีย ที่คว้าทองมาได้ 6สมัย
จริงอยู่ที่โค้ชอากิระ นิชิโนะ เพิ่งเข้ามาทำทีมชาติไทยได้ไม่กี่เดือน นั่นหมายความว่าอาจจะมีเวลาประกอบร่างช้างศึกได้ไม่เต็มร้อย แต่รายการซีเกมส์ที่เป็นทัวร์นาเมนท์มุดหมายชัดเจน
รู้ล่วงหน้ามาเป็นปีๆ การเตรียมทีมก็ควรจะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าตามไปด้วยมิใช่หรือ แต่กลายเป็นว่าเราเพิ่งมาได้กุนซือมาทำทีม ก่อนแข่งแบบจริงๆจังๆ ไม่กี่เดือน รวมถึงอีกประเด็นที่ผมเห็นว่าไม่ควรปล่อยผ่าน ก็เรื่องการเตรียมทีม ฝึกซ้อม ที่นักเตะที่จะใช้ในทัวร์นาเมนท์นี้แบบกลับมาได้มารวมทีมฝึกซ้อมกับ
ทีมแบบต่อเนื่อง การมาสมทบ ในภายหลังอาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ผมว่าไม่เพียงพอ เพราะคำว่าทีมเวิร์ก เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการปรับจูน แต่เราแทบไม่พร้อมในเรื่องนี้ หากจะบอกว่าปาร์ค ฮัง ซอ ทำทีมเวียดนาม ประสบความสำเร็จเพราะเค้าทีมมานาน ต่อเนื่องหลายปี
แง่นี้ก็เป็นเรื่องน่าชื่นชมถึงความพร้อมของสมาคมฟุตบอลบ้านเค้า ที่เอาจริงเอาจัง อีกทั้งที่สำคัญผมมองว่า นิชิโนะ ไม่อินพอกับการแข่งขันซีเกมส์ ที่ถือเป็นศึกศักดิ์ศรีอาเซียน ที่ในฐานะแฟนบอลไทย และแม้กระทั่งโค้ชคนไทย นักเตะไทย ก็น่าจะเข้าในแง่นี้มากกว่า ไม่ปฎิเสธครับ ในเรื่องฝีไม้ลายมือนิชิโนะ
แต่ในเมื่อได้รับมอบหมายให้เป็นเฮดโค้ช ที่สามารถให้ผู้ช่วยทำหน้าเฮดโค้ชซีเกมส์ 2019แทนได้ ผมว่าโค้ชคนไทย อย่างโค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน หรือโค้ชจุ่น อนุรักษ์ ศรีเกิด ก็น่าจะอินกว่า และรู้ว่าบอลอาเซียนต้องเล่นอย่างไร โยนให้รับผิดชอบทำทีมไปเลย ผมว่าการแข่งขันอาจจะออกมาดีกว่าที่เป็นอยู่ อันนี้หากจะหาว่าผมกล่าวลอยๆ อ้างโน่นนี่นั่น แต่ที่ผ่านมาการคว้าแชมป์ซีเกมส์ และคืนสู่จ้าวอาเซียนในฐานะเบอร์หนึ่ง
โดยเฉพาะรายการสำคัญอย่างซีเกมส์ ที่ผานมาไปไล่รายชื่อดูเป็นโค้ชชื่อไทย นามสกุลไทยทั้งนั้น ส่วนคำว่าก้าวข้ามอาเซียน หรือไม่ก้าวข้าม ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น เพราะผมมองว่าการสร้างความสำเร็จสามารถก้าวไปพร้อมๆกับผลลัพธ์ที่ต้องการได้
พูดง่ายๆคือว่าในความเห็นผม ไทย น่าจะคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งนี้ ได้ ไปพร้อมกับการสร้างทีมเพื่ออนาคต ในการต่อยอดลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นแง่ดีที่แฟนบอลหลายๆคนมอง ซึ่งผมก็เห็นด้วย เพราะนักเตะชุดนี้หลายๆคนก็เป็นแกนหลัก
แต่ก็ยังมีหลายๆคนผมก็ยังมองว่าน่าจะยังสอบไม่ผ่านในการไปเล่นในระดับเอเชีย ที่แต่ละทีมล้วนเขี้ยวลากดิน นับนิ้วจากนี้เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนกว่าๆ ที่ นิชิโนะ จะมีเวลาเตรียมทีมในชุด U23 ดูแล้ว นิชิโนะ น่าจะมีการบ้านหลายข้อ ให้ต้องแก้ไขมากทีเดียว
เพราะการตัดสินใจไม่เรียกนักเตะโควต้าอายุเกิน ลุยซีเกมส์ ก็ถือว่าเป็นการทดสอบนักเตะไทย ได้แบบเต็มเม็ด เต็มหน่วย ซึ่งก็เชื่อว่า นิชิโนะ น่าจะมองเห็นแล้วว่า ใครกันบ้างจะไปต่อได้ในทัวร์นาเมนท์นี้ กับอีกรายการสำคัญที่นิชิโนะ คงจะต้องมุ่งมั่นเต็มที่ เพื่อลบฝันร้ายในซีเกมส์ 2019.
คอลัมน์ ล้วงลูกบอลไทย
เขียนโดย ยอดี้
เครดิตภาพเพจฟุตบอลทีมชาติไทย