ไวรัส COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก มีแนวโน้มคร่าชีวิตผู้ป่วย เพศชาย สูงกว่า เพศหญิง
ดร. เดบราห์ เบิร์ซ หัวหน้ากองปฏิบัติการ COVID-19 ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ กล่าวว่า รายงานจากอิตาลีที่เผยให้เห็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ของผู้ชายเกือบทุกช่วงอายุนั้นมีอัตราสูงกว่าผู้หญิง ซึ่งเป็น “แนวโน้มอันน่าวิตกกังวล” ขณะสถิติจากประเทศอื่นๆ พบว่าผู้ชายเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่าผู้หญิงเช่นกัน
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญมองว่านิสัยบั่นทอนสุขภาพอย่างการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักพบเจอในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งอาจทำลายปอดและเป็นปัจจัยพื้นฐานของอาการอักเสบขณะรักษาภาวะติดเชื้อไวรัสโควิด-19
มีการตรวจพบในมนุษย์และหนูทดลองว่าความแตกต่างทางเพศมีอิทธิพลต่อการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจโดยมีความแตกต่างของเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย
เซลล์ภูมิคุ้มกันสามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนทสโทสเตอร์โรน ระดับที่แตกต่างกันของฮอร์โมนเหล่านี้ในชายและหญิงอาจมีบทบาททำให้การตอบสนองของภูมิคุ้มกันแตกต่างกัน พบว่า ซลล์ของผู้หญิงจะผลิตโปรตีนชนิดอินเตอร์ฟีรอน สูงกว่าเซลล์ของผู้ชายโดยอินเตอร์ฟีรอนเป็นส่วนสำคัญในการตอบสนองของภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
พบว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่งเสริมการผลิตโปรตีนชนิดอินเตอร์ฟีรอน ดังนั้น กำลังการผลิตโปรตีนชนิดนี้ในปริมาณมากกว่าของผู้หญิงจะช่วยลดการกระจายตัวของไวรัสและความเสียหายในปอดขณะติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ
เคนต์ พินเคอร์ตัน ศาสตราจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์เดวิส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่าการตอบสนองของภูมิคุ้มกันระหว่างเพศชายและเพศหญิงอาจเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน แต่นักวิทยาศาสตร์ยังต้องศึกษาต่อไป เพื่อค้นหาวิธีรับมือการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ดียิ่งขึ้น
ภาพ : China Xinhua News