พายุ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกต่างก็มีชื่อเป็นของตัวเอง แต่มีใครเคยสงสัยไหมว่า ทำไมชื่อพายุแต่ละลูกถึงแปลกหรือบางทีชื่อก็ไทยจ้าทั้งที่เกิดที่ต่างประเทศ วันนี้เรามาร่วมไขคำตอบกัน
พายุหมุนเขตร้อนและพายุหมุนกึ่งเขตร้อนจะได้รับการตั้งชื่อโดยศูนย์เตือนภัยต่าง ๆ เพื่อความสะดวกระหว่างนักพยากรณ์อากาศกับประชาชนทั่วไปในการคาดการณ์, ผู้สังเกตการณ์, และการเตือนภัย
การตั้งชื่อพายุจึงเกิดขึ้นเพื่อป้องกันการสับสนเกี่ยวกับพายุแต่ละลูก การตั้งชื่ออย่างเป็นทางการมีใช้กับพายุที่ก่อตัวในแอ่งพายุหมุนเขตร้อนในแอตแลนติกเหนือ, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกตะวันออก, กลาง, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกตะวันตก, พายุหมุนเขตร้อนในแปซิฟิกใต้ และพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดีย
ลักษณะภูมิศาสตร์ กับประเภทของพายุ
- มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก เรียกว่า “ไต้ฝุ่น” เกิดมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม ถึงตุลาคม เป็นบริเวณที่เกิดพายุหมุนมากที่สุด
- มหาสมุทรแอตแลนติกเหนือแถวทะเลแคริบเบียนและอ่าวเม็กซิโก เรียกว่า “เฮอร์ริเคน” เกิดมากในเดือนสิงหาคม ถึงตุลาคม
- มหาสมุทรแปซิฟิกเหนือ ฝั่งตะวันตกของประเทศเม็กซิโก เรียกว่า “เฮอร์ริเคน”
- มหาสมุทรอินเดียเหนือ เรียกว่า “ไซโคลน”
- มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย เรียกว่า “ไซโคลน” เกิดมากในเดือนธันวาคม ถึงกุมภาพันธ์
พายุหมุนเขตร้อนเมื่ออยู่ในสภาวะที่เต็มที่ จะเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดชนิดหนึ่งในบรรดาพายุที่เกิดขึ้นในโลก มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณตั้งแต่ 100 กิโลเมตรขึ้น
ทั้งนี้รายชื่อพายุที่ก่อตัวทางมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนบนและทะเลจีนใต้ มี 14 ประเทศ ที่อยู่ในภูมิภาคนี้ร่วมกันเสนอบัญชีรายชื่อเอาไว้ทั้งหมด 5 ชุดด้วยกัน ได้แก่ กัมพูชา จีน เกาหลีเหนือ ฮ่องกง ญี่ปุ่น ลาว มาเก๊า มาเลเซีย ไมโครนีเซีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไทย สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม
รายชื่อพายุมีทั้งหมด 140 ชื่อ แบ่งเป็น 5 ชุดหลัก ชุดละ 28 ชื่อ โดยเรียงชื่อไปตามลำดับประเทศ (และดินแดน) ที่เสนอมาตามอักษรโรมัน มีข้อกำหนดการใช้ตามนี้คือ
- เมื่อมีพายุที่มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางของพายุมากกว่า 34 นอต หรือ 63 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กลายเป็นพายุโซนร้อน) พายุนั้นจะถูกตั้งชื่อ
- ชื่อของพายุจะเริ่มใช้ชื่อบนสุดของคอลัมน์หรือชุดที่ 1 ก่อน เช่น เมื่อมีพายุเกิดขึ้นมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางตามที่กำหนดในข้อ 1 เป็นลูกแรก พายุลูกนั้นจะมีชื่อว่า “ด็อมเร็ย”
- เมื่อมีพายุลูกต่อไปเกิดขึ้นอีก และมีความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางตามที่กำหนดในข้อ 1 พายุลูกนั้นจะใช้ชื่อที่อยู่ถัดลงมาในชุดที่ 1 เช่น พายุลูกที่ 2 จะมีชื่อว่า “ไห่ขุย”
- เมื่อใช้จนหมดชุดแรกให้ใช้ชื่อแรกของคอลัมน์ที่อยู่ถัดไป เช่น พายุที่เกิดหลังพายุ “จ่ามี” จะใช้ชื่อ “กองเร็ย” ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
- เมื่อใช้จนหมดชุดที่ 5 ให้กลับมาใช้ชื่อแรกของชุดที่ 1 เช่น พายุที่เกิดหลังพายุ “เซาลา” จะใช้ชื่อ “ด็อมเร็ย”
- หากพายุลูกใดมีความรุนแรงและสร้างความหายนะมากเป็นพิเศษก็ให้ปลดชื่อพายุลูกนั้นไป แล้วตั้งชื่อใหม่เข้าไปในรายการชื่อแทน

ที่มาข้อมูล การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน