กระทิชาวเกาะเป็นผลิคภัณฑ์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังความสำเร็จนั้น มาจากหญิงชราวัย 88 ปี คนหนึ่ง วันนี้สปอตไลท์ส่องมาที่เธอคนนี้อีกครั้ง สังคมให้ความสนใจอยากรู้จักเธอ เมื่อเธอประกาศร่วมสบทบทุนกับตูน บอดี้สแลม จำนวนเงิน 10 ล้านบาท
“การให้คือความสุขที่สุด” คำพูดของหญิงชราร่างเล็กวัย 88 ปี คนนี้ ไม่ใช่แค่คำที่พูดให้ดูสวยหรู แต่เป็นคำที่เธอพูดและทำมาตลอด เธอเคยยาก เคยลำบากมากว่าครึ่งค่อนชีวิต ในวันที่เริ่มมั่งมีเธอก็เริ่มบริจาค ให้กับโรงเรียน และ วัดวาอารามอยู่เสมอ จนกระทั่งวันนี้ คุณแม่จรีพร เทพผดุงพร ประธานกรรมการบริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด หญิงที่มีคติว่า “การให้คือความสุขที่สุด” ประกาศว่าจะร่วมบริจาคเงิน 10 ล้านบาท ส่งผ่านพี่ตูน บอดี้แสลม และทีมงานก้าวคนละก้าวเพื่อไปสมทบบริจาคให้กับโรงพยาบาล 11 แห่ง
กว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้คุณแม่จรีพรต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างมากมาย กว่าที่จะทำให้ คนไทยรู้และจำชื่อของ กระทิชาวเกาะ ได้อย่างทุกวันนี้
วันหนึ่งลูกชายอยากทำกะทิบรรจุถุงขายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากกว่าขายมะพร้าวเป็นลูกๆ จากแม่ค้ามะพร้าวท่าเตียนก็กลายเป็นเจ้าของกิจการกระทิสำเร็จรูป แต่ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
เพราะเมื่อทำออกมาแล้วก็แทบจะขายไม่ได้ เพราะในยุคนั้นคนไทยยังปรุงอาหารด้วยกระทิสด ซึ่งเชื่อกันว่าอร่อยกว่ากระทิสำเร็จรูป
แต่เพราะความขยัน ไม่ยอมแพ้ แม้จะต้องใช้เวลาเป็นบทพิสูจน์ ในที่สุดกะทิชาวเกาะก็เริ่มติดตลาดและเป็นที่ยอมรับของคนไทย และบุกเบิกไปในต่างประเทศ
เมื่อธุรกิจไปได้สวย มีกำไร สิ่งแรกที่คุณคุณแม่จรีพรขอทำตามความตั้งใจ คือการแบ่งปัน จึงเป็นที่มาของการบริจาจช่วยเหลือโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารและโรงพยาบาลที่ขาดแคลน อยู่เสมอ และเมื่อพี่ตูนเริ่มโครงการก้าวคนละก้าว แม่จรีพรก็ตั้งใจที่จะร่วมเป็นอีกก้าวไปพี่ตูนในครั้งนี้