“จตุพร” แนะกองเชียร์ “ทษช.” รักษาแผลใจ หลังศาลรธน.สั่งยุบพรรค เชื่อคะแนนหนุนไม่หายแน่ ชง 24 มี.ค.กาฝ่าย “ปชต.” ส่ง “บิ๊กตู่” กลับบ้าน ด้าน “ไพบูลย์” จับตาแนวร่วมไทยรักษาชาติ แห่ย้ายพรรคผันตัวเป็นผู้ช่วยหาเสียง
7 มี.ค.62-นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ พร้อมนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวในรายการ “ทุบประเด็น” ทางสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวี หัวข้อ อวสาน “ไทยรักษาชาติ” ยุบพรรค! “เพื่อไทย-เพื่อชาติ” เดินยังไงต่อ? โดยนายจตุพร กล่าวว่า ตนผ่านการถูกยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 2 พรรคการเมือง ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน แต่การอยู่ในพรรคการเมืองเตรียมตัวเตรียมใจว่าการยุบพรรคสามารถเกิดขึ้นได้ โดยเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยถือว่ายุติ ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปใน 2 สัปดาห์จากนี้ ตนทำได้เพียงให้กำลังใจกัน และต้องรอระยะเวลาให้สิ้นสุด เพราะองคาพยพไม่ใช่แค่กรรมการบริหารพรรคเท่านั้น เพราะยังมีประชาชนที่สนับสนุนไทยรักษาชาติ ดังนั้นกรรมการบริหารพรรคก็เป็นประชาชนที่ต้องเยียวยาไปประชาชนที่สนับสนุนให้บรรลุเลือกตั้ง ตามเป้าหมายเจตนารมรณ์ที่ประกาศไว้
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ต้องให้เวลาประชาชนที่สนับสนุนไทยรักษาชาติตั้งหลัก ก่อนจะคิดว่าจะดำเนินอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าคะแนนฝ่ายประชาธิปไตยจะไม่เปลี่ยนเพราะประชาชนรู้ว่าปลายทางจะทำอย่างไร เพราะไม่ว่าจะมีพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่มี คะแนนเสียงจะไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนคะแนนจะเทมาที่พรรคเพื่อชาติหรือไม่ยังไม่คิดไปถึงขนาดนั้น เพราะต้องรอดูท่าทีที่ชัดเจนของประชาชนว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดในช่วง 3 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะการเดินร่วมกันไปถึง 376 ถือว่าไปยากมาก แต่เชื่อว่าประชาชนรู้เองว่าตัดสินใจอย่างไร จากนี้ถือว่ายังมีเวลาพอที่ประชาชนจะตัดสินใจจากที่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
“การเมืองครั้งนี้แยก 2 ฝ่ายชัดเจนระหว่างฝ่ายเอาและไม่ต้องการพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ผมยืนยันว่าถ้าไม่ต้องการพล.อ.ประยุทธ์ก็เลือกพรรคไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ฒมีคำขวัญถ้าเลือกพรรคเพื่อชาติ 24 มี.ค. พาพล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน ส่วนฝ่ายที่ไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดเป้าหมายต่อไปในวันที่ 24 มี.ค.นี้ สถานการณ์ขณะนี้ทุกพรรคการเมืองต้องช่วยกันประคับประคอง ไม่ให้มีการล้มกระดานลง ให้เดินไปให้ถึง 24 มี.ค.ให้ได้ ซึ่งทุกฝ่ายคาดการณ์ได้ว่าจะไปสู่อะไร ตนยังไม่สบายใจเราจะเดินไปสู่วันเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนการวินิจฉัยสถานะพล.อ.ประยุทธ์ ควรยุติก่อนวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. เพราะหากมีการวินิจฉัยตรงกันข้าม ถึงการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของพล.อ.ประยุทธ์ การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะได้ ดังนั้นหากอยากให้บ้านเมืองเดินไปได้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรเรียกพรรคการเมืองมาคุยกันว่า ถ้าซีกพรรคการเมืองมีเสียงเกินครึ่ง จะให้ส.ว.ที่ คสช.เลือกมาโหวตตามสภาฯ ด้วย”นายจตุพร กล่าว
ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า จากคำวินิจฉัยวันนี้ก็สอดคล้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) พิจารณา เพราะการยื่นบัญชีนายกฯมีปัญหามาก ถ้าไม่ระงับจะมีความเสียหายตามมา โดยประเด็นการยุบพรรคก็อยู่ในคำร้องของกกต.ที่เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องหยุด จึงเป็นที่มาของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สิ่งที่จะเป็นการวางบรรทัดฐานที่ชัดเจน และจะมีผลผูกพันทุกองค์กร ส่วนสถานการณ์เลือกตั้งนั้นยังมีประชาชนกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ยังไม่ตัดสินใจจะเลือกใคร นอกจากนี้จากที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรคนั้น มองว่าคะแนนเสียงอาจจะมีการไปมองพรรคการเมือง หรือพรรคอนาคตใหม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องของวัยซึ่งใกล้เคียงกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่กลุ่มที่ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค มีสิทธิจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ทันทีเพื่อสนับสนุนแนวคิดของอุดมการณ์ของตัวเอง ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มีสิทธิออกเสียงได้อย่างเดียว แต่เชื่อว่าไม่ได้หายไปไหน
“ส่วนการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าเกิดจากกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ แต่จะเป็นใครไม่อยากจะพูดอะไรถึงอีก เพราะมีการยุบพรรคไปแล้ว ส่วนคุณสมบัติพล.อ.ประยุทธ์นั้น อยู่ที่กระบวนการของกกต.จะพิจารณา”นายไพบูลย์ กล่าว