ดีเอสไอ จับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า – สินค้าหลบหนีศุลกากรรายใหญ่ มูลค่าของกลางกว่า 50 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.เวลา 10.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ. ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ นางมาลา ตั้งประเสริฐ รองประธานคณะกรรมการ ปปท. ภาคเอกชน ในฐานะผู้แทนจากบริษัทซึ่งได้รับความเสียหาย ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าหลบหนีศุลกากรอาทิ โทรศัพท์มือถือ แบตเตอรี่โทรศัพท์ กระเป๋า เครื่องสำอาง และสินค้าอื่นๆ ร่วม 100,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
หลังจากเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา จึงได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 3 จุด ดังนี้ 1. โกดังเลขที่ 37/49 ถ.บางระมาด แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตรวจพบมีการขนสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ในโกดัง รวมถึงตรวจยึดรถตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรทุกสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและสินค้าหลบหนีศุลกากรได้ 1 คัน 2. โกดังเลขที่ 37/25 ถ.บางระมาด แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตรวจพบมีการขนสินค้าที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ในโกดัง3. ได้ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 555/32 หมู่บ้าน บี ฮาโมนี ราชพฤกษ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า การดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากประเทศไทยถูกจัดอันดับของประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในระดับ pwl (prior watch list )ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งทางสหรัฐอเมริกาพร้อมจะทบทวนสถานะของประเทศไทยให้ดีขึ้น จึงต้องมีการปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง และขอฝากไปถึงประชาชนอย่านำสินค้าเหล่านี้มาใช้เพราะอาจเกิดการระเบิดได้
ขณะที่ พ.ต.ต.สุริยา กล่าวว่า ดีเอสไอจะเน้นปราบปรามผู้กระทำผิดรายใหญ่เกี่ยวกับผู้ลักลอบละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำหรับการจับกุมครั้งนี้มีผู้ต้องหา เป็น เจ๊ ฮ ถือเป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศ ที่ผ่านดีเอสไอเฝ้าระวังจับตากลุ่มเหล่านี้มาตลอด และขอเตือนบรรดาเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายให้เห็นแก่ประเทศชาติ ทางดีเอสไอจะปราบปรามจับกุมให้หมดและใช้กฎหมายการฟอกเงินเข้ามาดำเนินการด้วย
พ.อ.พินิจ เผยว่า ปัจจุบันพบว่าร้อยละ 95 มีการลักลอบนำเข้าสินละเมิดลิขสิทธิ์ และหลบเลี่ยงภาษี ทางดีเอสไอมีข้อมูลกลุ่มผู้กระทำผิดเหล่านี้อยู่แล้ว จากการตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมทางการเงินช่วงปี 2559 ถึงปัจจุบัน นายทุนรายนี้มีรายได้กว่า 400 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าสินค้นใดเลี่ยงภาษีและสินค้าใดปลอม ส่วน เจ๊ ฮ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ในการจับกุมครั้งนี้จับได้เพียงคนเฝ้าโกดังเท่านั้น
“ขอเตือนให้ผู้ทำผิดทั้งหยุดการกระทำนี้ที่ผ่านแล้วก็ให้ผ่านไปหลังจากนี้จะจับกุมให้หมด รวมถึงผู้ลักลอบผลิตสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทยด้วย เป้าหมายทั้งหมดเพื่อ pwl ในการจัดอันดับของประเทศไทย” พ.อ.พินิจ กล่าว
ด้าน นางมาลา ตั้งประเสริฐ รองประธานคณะกรรมการ ปปท.ภาคเอกชน ในฐานะผู้แทนบริษัทผู้เสียหาย กล่าวว่า ขอบคุณดีเอสไอที่ดำเนินการจับกุมปราบปรามซึ่งการละเมิดสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ผ่าน อย. จากนี้ทางกรมสรรพากรจะเล็งเก็บภาษีพวกขายสินค้าออนไลน์ด้วย ทั้งหมดเพื่อการจัดอันดับ pwlของประเทศไทย
“เบื้องหลังการนำเข้าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไม่ใช่คนไทยเพียงกลุ่มเดียว แต่มีชาวจีนลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าเข้ามาแล้วนำมาประกอบขาย ซึ่งถือว่าทำเป็นขบวนการใหญ่” นางมาลา กล่าว