ตะลึง…จับอาวุธสงครามล็อตใหญ่ส่งชายแดน

ตะลึง…จับอาวุธสงครามล็อตใหญ่ส่งชายแดน มีทั้งลูกระเบิด อาวุธปืน เครื่องมือควบปืนกล ขาหยั่งปืนกล ขาหยั่งปืนไรเฟิล ดินส่งจรวด คาดเป็นกลุ่มบุคคลที่ค้าอาวุธสงครามให้กับชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้(19พ.ย.60) ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 นำของกลางอาวุธสงครามจำนวนมากที่จับมาได้มีทั้งเครื่องกระสุนกว่า 3,900 นัด ลูกระเบิด อาวุธปืน เครื่องมือควบปืนกล ขาหยั่งปืนกล ขาหยั่งปืนไรเฟิล ดินส่งจรวด ซึ่งเป็นของกลางที่ตรวจยึดได้ในที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 บ้านจำขี้มด ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ก่อนขยายผลเข้ายึดอาวุธสงครามเพิ่มเติมได้ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 บ้านแม่สะลาบ ตำบลชมพู อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่

โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้มี  2คน คือนายประชัน จะวะนะ ภูมิลำเนาตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และนายอัครา หรือตุ๊ ภัทรทวีกุล ภูมิลำเนาอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา”มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบปากคำเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธสงครามในครั้งนี้เพิ่มเติม
พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาว่า หนึ่งในผู้ต้องหา คือนายประชัน จะวะนะ ที่ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดลำพูน เวลาดื่มเหล้าจนเมามักนำอาวุธสงครามเหล่านี้ออกมาโชว์ และข่มขู่ชาวบ้านเป็นประจำ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นไกด์นำเที่ยวให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวทัวร์ป่า ขณะที่นายอัครา หรือตุ๊ ภัทรทวีกุล ก็เป็นผู้จัดการของปางช้างแห่งหนึ่งในอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

จากการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ค้าอาวุธสงครามให้กับชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยทั้งสองคนมีอาชีพเป็นไกด์ทัวร์ป่าจึงมีความคุ้นเคยกับชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน จึงได้รับการว่าจ้างให้นำอาวุธสงครามมาขายให้

สำหรับเครื่องกระสุนที่ตรวจยึดได้ โดยเฉพาะกระสุนปืนอาก้ากว่า 4,000 นัดนั้น พบว่าอาจมีการนำไปใช้ก่อเหตุร้ายตามแนวชายแดนหลายครั้ง เท่าที่ติดตามในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 5 มีอยู่ 2 คดี ที่ใช้อาวุธปืนอาก้าในการก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำเพื่อขยายผล ว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปรับอาวุธสงครามทั้งหมดมาจากนายทุนกลุ่มใด และส่งให้กับใครบ้าง เพื่อจะได้ติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป