แม้ว่าท่าน ผู้ว่า ฯ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” จะย้ายไปอยู่จังหวัดพะเยาแล้ว แต่น่าอิจฉานักศึกษา “มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง” ที่มีโอกาสได้ฟังข้อคิดดีๆ จากท่านผู้ว่าฯ ซึ่งข้อคิดที่ท่านให้กับน้องใหม่นั้น ไม่ใช่แค่นักศึกษาที่นำไปใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตได้ ทุกท่านก็สามารถนำไปใช้ได้เช่นกัน
งานนี้ รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้เรียนเชิญ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระเยา อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (ศอร.) แห่งจังหวัดเชียงราย มาเป็นแขกพิเศษในการ “เตรียมความพร้อมนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2561” เพื่อให้ข้อคิดและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษาใหม่ หรือ How to live and learn on campus ที่จัดขึ้นเพื่อหลอมรวมความรู้สึกนึกคิดและความเข้าใจของนักศึกษาใหม่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และให้รู้ว่าจะใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างไร
ท่านผู้ว่าฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม ในการพูดคุยกับนักศึกษา นอกจากเล่าเบื้องหลังในถ้ำ ท่านผู้ว่าฯ ยังบอกด้วยว่า
“ผมไม่ได้เป็นฮีโร่หรือวีรบุรุษ เป็นเพียงคนนำจิ๊กซอว์ทั้งหมดมารวมกัน ก่อให้เกิดภาพของเหล่าฮีโร่ตัวจริงนับหมื่นคน ที่มาช่วยปฏิบัติภารกิจที่ถ้ำหลวงจนประสบความสำเร็จในที่สุด”
“ไบรท์ทีวี” ขอนำถ้อยคำของท่านผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ ซึ่งเป็นบทเรียนและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนมาแบ่งปัน บางส่วนบางตอน ดังนี้
“การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เป็นเพียงก้าวแรกของความสำเร็จ แต่ไม่ใช่ชัยชนะทั้งหมดของชีวิต เมื่อเราสำเร็จการศึกษา นำวิชาความรู้ออกไปใช้ประโยชน์ให้สังคมได้ นั่นจึงถือว่าเราประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง”
“ในการศึกษานั้น คนที่นำวิชาความรู้มาประยุกต์ใช้ได้จริง คือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต”
“ผมเคยถามตัวเองเช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญการดำน้ำชาวอังกฤษที่เป็นผู้พบตัวทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตเป็นคนแรก ว่าสิ่งที่ร่ำเรียนและฝึกฝนมาทั้งชีวิตนั้นทำไปเพื่ออะไร จนได้ค้นพบคำตอบ เมื่อได้มาปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตในครั้งนี้”
“การทำงานทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จ ต้องวางแผนให้ดีที่สุด เลือกคนทำงานให้เหมาะสมที่สุด และทำตามแผนให้ดีที่สุด และต้องเตรียมรับมือเมื่อมีสิ่งที่ไม่เป็นไปตามแผน กับการเรียนมหาวิทยาลัยก็เช่นเดียวกัน เราอยากเรียนอะไร ต้องเรียนอย่างไร เมื่อเรามีแผนที่ดี เท่ากับเรามีต้นทุนสู่ความสำเร็จ”
“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากถ้ำหลวงและจากผู้คนที่มาช่วยปฏิบัติภารกิจ คือ ความมีน้ำใจ ความเสียสละ ซึ่งไม่มีคำว่าเชื้อชาติ ศาสนา เพศ สีผิว ไม่มีเส้นแบ่งกั้นที่ทำให้เกิด Mission of Humanity ความร่วมมือร่วมใจของมวลมนุษยชาติ”
“ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตนเอง แค่เราทำตามหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และไม่ละเมิดหน้าที่ของใคร”
“วิกฤติ ทำให้ได้ค้นพบโอกาส ปัญหาทำให้เกิดองค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหา (แต่ถ้าเลือกได้เราก็ไม่อยากให้เกิดวิกฤติ)”
“ชีวิต ควรมีแผน ระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว และเตรียมรับมือเมื่อไม่เป็นไปตามแผน นี่คือแผนที่สู่ความสำเร็จ”
“ชีวิตคนเรา มีทั้งบทบาทการเป็นผู้รับและผู้ให้ เราเรียนหนังสือเราเสียค่าเทอมส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ถือว่าเราเป็นผู้ที่ได้รับจากสังคม เมื่อเราเรียนจบออกไปทำงาน มีศักยภาพมากขึ้น ก็ขอให้หาโอกาสตอบแทนคืนกลับสู่สังคม ในฐานะผู้ให้”
“หลังจากที่ผมเรียนจบและทำงานราชการใช้ทุนรัฐบาลจนครบถ้วน เมื่อต้องตัดสินใจเลือกระหว่างทำงานราชการต่อ กับงานเอกชนที่ได้ค่าตอบแทนสูงขึ้น จากคำพูดของแม่บอกผมว่า ถ้าเราทำให้สังคมดีขึ้นได้ ทำงานราชการให้ดีขึ้นได้ ก็ไม่ต้องสนใจว่าจะได้เงินเท่าไร นับแต่นั้นมาผมก็ทำงานราชการมาโดยตลอด”
“ไม่ว่าทำงานหน้าที่ใด ขอให้เป็นคนดีของสังคม และสนับสนุนให้คนดีได้มีที่ยืนในสังคมมากกว่าคนไม่ดี จึงจะทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าได้ ตามแนวพระราชดำรัส ในหลวงรัชกาลที่ 9”