ผู้เสียหายทยอยชี้ตัว วินจยย.เถื่อน เรียกเก็บค่าโดยสารแพง หลังถูกรวบ! ตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sudarat Boonchai ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะตนเองและเพื่อนได้ใช้บริการโดยสารวินมอเตอร์ไซด์บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 โดยระบุว่า…เตือนภัย ! ไอ้นี้มันบอกว่ามันเป็นวิน อยู่หน้าหมอชิต 2 แล้วตอนนั้นรถก็ติดแท็กซี่ก็ไม่มี มันก็บอกว่าเดียวไปส่งด้านนอกรถมันติด ความที่เราไม่เคยมา ก็เลยขึ้น มันขับออกจากหมอชิตไม่ถึงกิโล มันบอกว่า 450 บาท
วันนี้ ( 4 ม.ค. 60) ที่ สน.บางซื่อ พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน ผกก.สน.บางซื่อ ได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ ตรวจสอบข้อจริง และตรวสอบรถ จยย.คันดังกล่าวในคลิป เป็นรถฮอนด้า รุ่นเวป สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กคม8788 กทม.ว่าใครครอบครอง และติดต่อผู้เสียหายทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำ เพื่อเอาผิดผู้ต้องหา ในข้อหาเรียกเก็บค่าโดยสาร หรือค่าบริการอื่นเกินกว่าอัตราที่กำหนดในกำกระทรวง จนเวลา 12.50 นายณัฐกานต์ เหลืองพิพัฒน์ชัย อายุ 23 ปี ผู้เสียหายเดินทางพบพนักงานสอบสวน และให้การตรงตามที่ระบายลงในเฟส โดยนายณัฐกานต์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องหาคล้ายคนเมาอะไรสักอย่าง สังเกตจากการตัวสั่น ปากสั่น พูดจากระโชกโฮกฮาก แต่ไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
กระทั่งเวลา 13.00 น.ฝ่ายสืบสวน สน.บางซื่อ รู้ตัวคนขับแล้ว ได้อายัดรถคันดังกล่าวได้ในพื้นที่ สน.นางเลิ้ง อันเป็นที่พักของคนร้าย และรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออหมายจับ ต่อมาเวลา 17.00 น.เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ได้เดินทางมาประสานงานพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อขอข้อมูล เพราะเป็นผิดเกี่ยวกับการเรียกค่าบริการ ตาม พรบ.จราจร ทางบก ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพ เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายครั้ง มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความแล้วหลายรายราย โดยคนร้ายจะไปหาลูกค้าตามงานต่าง ๆ อย่างงานรับปริญญา เพราะมีคนพลุกพล่าน
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาสอบปากคำพร้อมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหาด้วยตัวเอง โดยหนึ่งในผู้ก่อเหตุ คือนายธรรมรัตน์ อ่ำน้อยวงษ์ อายุ 36 ปี ส่วนผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังจับกุมไม่ได้ คือนายอ้อม (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน กค 8788 กรุงเทพมหานคร คันที่ใช้ก่อเหตุไว้เป็นของกลาง ซึ่งรถจักรยานยนต์คันนี้เป็นของผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง และยอมรับว่ามีการเสพยาเสพติดด้วย ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกตำรวจ สน.นางเลิ้ง จับกุมมาแล้ว 5 ครั้ง ทั้งคดีเสพยาเสพติดและลักทรัพย์
ซึ่งผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.บางซื่อ แล้ว 3 ราย โดยผู้เสียหายทุกคนระบุตำหนิรูปพรรณคนร้ายตรงกัน คือมีรอยสักที่คอ โดยหนึ่งในผู้เสียหายระบุว่าเวลาประมาณตี 2 ของวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนผู้เสียหายอีกคน นั่งรถทัวร์กลับจากเชียงใหม่มาลงที่สถานีขนส่งหมอชิต และถูกกลุ่มวินรถจักรยานยนต์กว่า 10 คันชักชวนให้ใช้บริการ แต่ตนเองไม่สนใจ เพราะตั้งใจจะนั่งรถแท็กซี่ ตนเองกับเพื่อนจึงไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว แต่วินรถจักรยานยนต์ดังกล่าวยังตามตื้อ และจะรอ ตนเองจึงไปเจรจาว่าจะจ่ายเงินค่าเสียเวลาให้ 100 บาท โดยไม่ต้องไปส่ง แต่ทางวินรถจักรยานยนต์ไม่ยอม พร้อมบอกว่า จะพาไปเรียกรถแท็กซี่ ตนกับเพื่อนจึงตกลงนั่งรถวินรถจักรยานยนต์กันไปคนละคัน แต่คนขับกลับขี่ไปคนละทางและถูกเรียกเก็บค่าโดยสารคนละ 480 บาท ทั้งนี้ตนเองกับเพื่อนยังเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเสพยาเสพติดด้วย เพราะมีอาการคล้ายคนเมายา ชักกระตุกเป็นระยะๆ
ล่าสุดวันนี้ ตำรวจเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วนความผิด กรณีที่มีการเรียกค่าโดยสารแพงเกินเหตุจะมีความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 ต้องโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง