พ่อแม่ผู้เสียชีวิตเรือล่มชุมพรเตรียมฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพิ่ม ขณะเจ้าหน้าที่กู้ซากเรือขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว รอพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุเรือล่มวันนี้
ที่ท่าน้ำคานเรือเนาวรัตน์ ตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร นายปณัย หนูแท้ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำรถเครน 2 คัน ชักลาก เรือโชติธารา 2 ที่กู้มาจากกลางทะเลหลังจมบริเวณเกาะง่ามใหญ่ มีนักเรียนดำน้ำและถ่ายภาพใต้ทะเลเสียชีวิต 5 ศพ รอดชีวิต 11 ราย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ชักลากเรือโชติธารา 2 ขึ้นมาบนคานเรือเนาวรัตน์ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเรือดังกล่าวเป็นเรือไม้ 2 ชั้น เคลือบทับด้วยไฟเบอร์กลาส ขนาด 19.58 ตันกรอส สภาพค่อนข้างเก่า บริเวณหัวเรือและท้ายเรือด้านซ้ายมีรอยแตกเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ และรอบๆตัวเรือมีรอยผุแตกร้าวอีกหลายจุด
โดยมี นายสหสัก กัญจนปกรณ์ อายุ 59 ปี และนางธัญญทร กัญจนปกรณ์ อายุ 53 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งพ่อแม่ของ นายมหัทธน กัญจนปกรณ์ อายุ 27 ปี อาจารย์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาคอยติดตามดูการกู้เรืออย่างใกล้ชิด
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า หลังจากน้ำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาไว้บนคานเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของเรือจมต่อไป
ด้านนายสหสัก กล่าวว่าบริษัทที่จัดทริปเปิดสอนดำน้ำและถ่ายภาพใต้น้ำได้เช่าเรือลำดังกล่าวเป็นเวลา 4 วัน และวันที่เรือจมคือวันที่ 3 ก่อนหน้านั้นทราบว่าเครื่องยนต์มีปัญหาและเรือรั่วต้องคอยสูบน้ำมาตลอด ซึ่งดูจากสภาพเรือแล้วเรือค่อนข้างเก่ามาก ตนสงสัยและข้องใจมากว่าช่วงที่เรือโชติธารา 2 เกิดปัญหาเครื่องยนต์เสียและเรือรั่วมาตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันเกิดเหตุแล้ว แต่ทำไมทั้งผู้ที่จัดทริปสอนดำน้ำและกัปตันเรือจึงไม่แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องให้ไปช่วยเหลือ แต่กลับติดต่อช่วยเหลือกันเองปล่อยให้เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงจนวิกฤติกระทั่งเรือจม ตอนนี้รอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเรือ หลังจากนั้นตนจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับกัปตัน เจ้าของเรือ และผู้จัดทริปสอนดำน้ำ จากเดิมที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไปก่อนหน้านี้แล้ว