กรณีโครงการก่อสร้างพักตุลาการศาล ที่บริเวณเชิงดอย สุเทพ จ.เชียงใหม่ ยังมีความเคลื่อนไหว คัดค้
วันนี้ (11 เม.ย.) ตัวแทนเครือข่ายทวงคืนผืนป่
เส้นสมมุติที่ใช้ในการพิจารณาที่กำลังมีการศึกษากันอยู่นี้ มีทั้งหมด 3 เส้น หากมองจากด้านหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 ขึ้นไป เส้นแรกจะถูกขีดแนวขวางตามแนวเขตป่าเดิม คืนพื้นที่ป่าด้านบนทั้งหมด เหลือเพียงอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ด้านหน้า และ อาคารชุดบางส่วน เส้นที่ 2 เป็นแนวเดียวกันเส้นแรก แต่เว้นอาคารชุดเพิ่มเติมอีก 2 หลัง เพื่อศาลได้ใช้ประโยชน์
และเส้นที่ 3 ตัดบริเวณลำสะพานลำห้วยชะเยือง ที่จะทำให้บ้านพัก 45 หลัง ถูกรื้อถอนทั้งหมด
โดยเครือข่ายฯ ขอให้นำประเด็นในเรื่องป่าไม้ ดิน น้ำ และ สภาพสังคมวัฒนธรรม มาใช้ในการพิจารณาผลดีผลเสียนอกจากนี้ยังมีเป็นห่วงเรื่องระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะระบบจัดการน้ำเสีย เพราะเป็นห่วงว่า น้ำเสียจากบ้านพักจะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำแม่จอก ที่อยู่ติดกัน และเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำดิบสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคในเขตเมืองเชียงใหม่ ซึ่งไม่เหมาะสมที่จะทำกิจกรรม
โดยการสำรวจพื้นที่ครั้งนี้เพื่อหาข้อสรุปในการขีดเส้นสมมุติในการแบ่งเขตพื้นที่ก่อสร้างบ้านพักตุลาการและพื้นที่ป่าออกจากกัน เตรียมนำเสนอให้กับ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 และ ผู้บัญชการทหารบก ภายในวันที่ 29 เมษายน นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสำรวจแนวเขตป่าในวันนี้ ได้มีการทำหนังสืออนุญาตศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อเข้าไปสำรวจภายในพื้นที่ แต่ไม่มีการตอบรับ ขณะที่มีรายงานว่า ผู้บริหารได้ส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมและยังไม่ได้รับคำตอบกลับมา
เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ออกมาพูดเรื่องนี้เหมือนกัน บอกว่า โครงการนี้เกิดก่อนมาก่อนหน้าที่รัฐบาลจะเข้ามา แต่รัฐบาล ก็ต้องแก้ไขให้เกิดความชัดเจนให้เป็นไปตามกฎหมาย และตามที่ประชาชนต้องการ แต่ก็เสียดาย เพราะที่ผ่านมา มีการก่อสร้างเป็นไปตามลำดับ เป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง มีสัญญาจะไปรื้อทั้งหมดคงลำบาก ขอให้ใจเย็น อย่ามาเดินขบวนกันอีกเลย คุยกันให้รู้เรื่องว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรดีกว่า ถ้าให้ทุบทิ้งอย่างเดียวมันทำง่าย แต่ต้องมีคนรับผิดชอบงบประมาณตรงนี้ด้วยจะไม่สนใจตรงนี้ก็ไมได้ เพราะ รัฐบาลนี้ต้องแก้ปัญหา