คุณพ่อคุณแม่หลายท่านต้องเคยสังเกตเห็นว่า “ผื่นผิวหนัง“ ที่ขึ้นตามตัวของลูกน้อยมาจากไหน เกิดขึ้นเพราะอะไร เราจะรักษาอย่างไรดี ซึ่งเรื่องเหล่านี้ล้วนสร้างความหนักใจให้กับผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจกับอาการที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยของเราก่อน เพื่อที่จะได้รักษาและป้องกันพวกเขาให้ห่างไกลจาก “ผื่นผิวหนัง” ตัวร้ายได้
ผื่นตัวร้ายเกิดขึ้นจาก?
ผื่นเกิดขึ้นได้อย่างไรนั้น ในปัจจุบันไม่สามารถทราบได้แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยรวมกัน เช่น พันธุกรรม ร่วมกับภาวะทางภูมิคุ้มกันต้านทานโรคในร่างกาย เมื่อมีปัจจัยกระตุ้น เช่น อาหารบางอย่าง สภาพอากาศ สิ่งระคายเคืองต่าง ๆ การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา การเกา เป็นต้น
รูปร่างของเจ้าผื่นผิวหนัง
มีลักษณะการอักเสบของผิวหนังหลายระยะ ตั้งแต่ระยะเฉียบพลันจนถึงระยะเรื้อรัง ลักษณะที่พบได้คือเป็นผื่นตุ่มแดงคัน เป็นแผ่นแดง ลอก และเป็นขุย มีอาการคันมากและมีการกระจายตามตัวต่างกันในแต่ละช่วงอายุ โดยวัยทารก มักเริ่มในวัยเด็กเล็กอายุ 2-3 เดือน ตามบริเวณแก้ม ด้านนอกของแขน และขา ที่สัมผัสสารระคายเคือง หรือมีการเสียดสี
โรคผื่นผิวหนังมีลักษณะการดำเนินโรคเรื้อรัง และมีความรุนแรงแตกต่างกันในแต่ละคน จะมีผื่นเกิดขึ้นเป็น ๆ หาย ๆ ทั้งนี้ขึ้นกับการดูแลผิวหนัง และการสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่นซึ่งแตกต่างกันในแต่ละราย มีโอกาสที่โรคจะสงบและหายได้ เมื่ออายุมากขึ้นส่วนใหญ่ผื่นผิวหนังจะดีขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยเรียนรู้วิธีการดูแลผิวหนังตนเองได้ดีขึ้นนั่นเอง
จะป้องกันได้อย่างไร?
- กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เพราะการให้นมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนแรก ช่วยลดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังได้ เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างสารภูมิคุ้มกันหลายชนิดให้ทารก
- อาบน้ำให้ลูกด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทุกครั้ง ปัจจุบันมีโรคติดเชื้อชนิดใหม่ ๆ และพบอัตราของเชื้อดื้อยาสูงขึ้น โรครุนแรงขึ้น อีกทั้งเด็กทารกระบบภูมิคุ้มกันยังไม่ดีพอ ดังนั้น ควรล้างมือบ่อย ๆ และอาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบอ่อนโยน ที่สำคัญไม่ควรอาบนานเกิน 10 นาที
- ใช้สารเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวหนัง เช่น ครีม โลชั่น น้ำมัน และขี้ผึ้ง ที่ไม่มีน้ำหอมหรือสารเคมี ควรใช้หลังอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง รวมถึงการสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ง่าย เช่น ผ้าฝ้าย เพื่อเลี่ยงจากการสัมผัสสารระคายเคือง
ผื่นผิวหนังมีลักษณะการดำเนินโรคแบบเรื้อรัง หากดูแลผิวหนังและเลี่ยงการสัมผัสสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดผื่น ร่วมกับติดตามการรักษากับแพทย์อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้อาการของลูกน้อยดีขึ้นได้
ขอบคุณภาพจาก amarinbabyandkids
ขอบคุณข้อมูลจาก haamor.com