“ณัฐวุฒิ” ยังคาใจ “แรมโบ้” หลุดคดีล้มประชุม “อาเซียน” คนเดียว หลังอัยการแจ้งคดีหมดอายุความ ดักคอเป็นเงื่อนไขแลกดึงตัว ร่วมพรรคการเมืองหรือไม่
25 มิ.ย.62-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand “ ทางสถานีโทรทัศน์สปริง 26 กรณีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้อีสาน” หลุดคดีเหตุการณ์ล้มประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่พัทยา ว่า เมื่อวานนี้ ศาลจ.พัทยาได้นัดจำเลยเพื่อตรวจพยานหลักฐานและนัดวันสืบพยาน แต่ทนายความของผู้ถูกกล่าวหาได้รับแจ้งจากอัยการว่า ไม่สามารถนำตัวนายสุภรณ์มาได้ เนื่องจากคดีขาดอายุความไปแล้ว ตนจึงนำประเด็นนี้หารือหน้าบัลลังค์ศาลว่า เรื่องนี้เป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่ หรือมีแนวปฏิบัติกระบวนการยุติธรรมให้น่าเชื่อถืออย่างไร เนื่องจากผู้กล่าวหาทั้ง 6 คนมีสถานะเป็นนักการเมืองเหมือนกัน มีการเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย หากพนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ถูกล่าวหาทั้ง 5 คนมาฟ้องได้ แต่อีกคนกลับนำตัวมาไม่ได้เพราะอะไร แต่อัยการชี้แจงว่านายสุภรณ์ไม่ได้มาตามนัดจนนำไปสู่การออกหมายจับจากศาล แต่เป็นการขอหมายจับที่อยู่ในช่วงใกล้ขาดอายุความจาก ซึ่งคดีนี้ถูกกล่าวหาตาม มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น มีอายุความ 10 ปี ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.2552 และหมดอายุความเมื่อเดือน เม.ย.2562
“ที่ผมทักท้วงกรณีนี้ไม่มีเป้าจะลากคุณสุภรณ์มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะหากคุณสุภรณ์พ้นคดีก็ไม่ได้อิจฉา แต่ถ้าฝ่ายกฎหมายจะอธิบายได้ จากประเด็นที่สำคัญคือเราจะอยู่ในสังคมที่เอากระบวนการุติธรรมมาต่อรองทางการเมืองหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีคนพูดเป็นกระแสว่าการตั้งพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้เชิญชวนพรรคต่างๆ เข้าร่วมโดยมีเงื่อนไขสารพัดตั้งแต่ตัวเลขหรือการช่วยเหลือเรื่องคดีควาท ผมก็ไม่รู็จริงเป็นอย่างไร แต่กรณีนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะถูกต้องคำถามในประเด็นดังกล่าว ถ้าอธิบายไม่ได้กระบวนการุติธรรมของประเทศจะเชื่อถือได้หรือไม่”นายณัฐวุฒิ กล่าว